รับผลิตครีมบำรุงผิว
โรงงานรับผลิตลิปสติก ทุกรูปแบบ สร้างแบรนด์ลิปสติก ครบวงจร
หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังอยากทำแบรนด์ลิปสติก มองหาโรงงานผลิตลิปสติก หรือกำลังต้องการสร้างแบรนด์ตัวเอง แน่นอนว่าคุณภาพของสินค้าคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่เจ้าของแบรนด์ทุกคนให้ความสำคัญ คุณสามารถสร้างสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ด้วยโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตและมีประสบการณ์ผลิตเครื่องสำอาง ที่ Pure Derima Laboratories (PDL) โรงงานของเรามีให้บริการทั้ง OEM และ ODM ให้บริการครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา วิจัยและทดลองสูตร ออกแบบแพ็กเกจ ผลิตสินค้า ไปจนถึงขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเป็นโรงงานผลิตลิปที่มีความเชี่ยวชาญ มีสูตรลิปสติกมากมาย ตอบทุกโจทย์ของคนที่อยากผลิตลิปสติกแบรนด์ตัวเอง
โรงงานผลิตลิปสติกที่ได้รับการรองรับมาตรฐานระดับสากล
โรงงานผลิตลิปสติกจำเป็นจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน เพราะลิปสติกในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท หลากหลายจุดประสงค์การใช้งาน เราจึงมีบริการรับผลิตลิปหลายรูปแบบเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งรับผลิตลิปกลอส รับผลิตลิปซอง แต่แน่นอนว่านอกจากสูตรหลากหลายและการใช้งานที่สวยงามตอบโจทย์แล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง
โรงงานผลิตเครื่องสำอางและรับผลิตลิปสติกของ PDL เราได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ASEAN GMP, ISO9001, ISO22716, FDA, HALAL, Green Industry ทุกสูตรผ่านการวิจัยและควบคุมความปลอดภัย จึงวางใจได้ว่าจะให้ทั้งผลลัพธ์ที่ดูดีและความปลอดภัยในการใช้งาน ทั้งยังให้คำปรึกษาตั้งแต่การพัฒนาสูตร พัฒนาแบรนด์ ให้แบรนด์ลิปสติกของคุณพัฒนาแบรนด์ตัวเองและเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน
Pure Derima Laboratories รับผลิตเนื้อลิปสติกแบบไหนบ้าง
โรงงานผลิตลิปสติกของ PDL รับผลิตลิปสติกครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน มีสูตรหลากหลาย ตอบทุกความต้องการในการทำแบรนด์ลิปสติก ซึ่งในปัจจุบัน เนื้อลิปสติกมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ทั้งเนื้อแมท เนื้อกลอส เนื้อออย และอีกมากมาย แต่ละแบบก็มีจุดเด่นและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
1. ลิปสติกเนื้อแมท
ลิปสติกเนื้อแมท (Matte Lipstick) ลิปสติกแบบนี้จะมีเนื้อที่ด้าน เห็นสีของลิปสติกชัดเจน เมื่อทาแล้วจะไม่มีความแวววาว ไม่สะท้อนแสง และติดทนทาน ให้ลุคที่ดูเรียบหรู แต่เนื่องจากเนื้อของลิปสติกจะแห้งกว่าแบบอื่น ๆ จึงควรทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากก่อนทาลิปแมท เพื่อไม่ให้ริมฝีปากแห้งและลอก
2. ลิปสติกเนื้อกลอส
ลิปสติกเนื้อกลอส (Glossy Lipstick) เป็นลิปสติกที่มีเนื้อเหลว ฉ่ำวาว เนื้อลิปสติกจะมีความชุ่มฉ่ำ เนื้อสีบาง นิยมทาเดี่ยว ๆ หรือทาทับลิปสติกที่มีสีชัดเจนเพื่อเพิ่มมิติให้ริมฝีปากก็ได้เช่นกัน ลิปกลอสมักจะหลุดง่ายกว่าลิปสติกเนื้ออื่น ๆ และไม่ติดทนมากนัก แต่ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งแตก
3. ลิปสติกเนื้อออย
ลิปสติกเนื้อออย (Oil Lipstick) มีความเหลวและฉ่ำวาวคล้ายกับลิปกลอส แต่ให้สีที่ชัดเจนกว่า มักมีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติจึงช่วยบำรุงริมฝีปากไปในตัว เหมาะกับที่มีริมฝีปากแห้ง เพราะนอกจากจะให้สีสันสวยงามยังช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นอีกด้วย
4. ลิปสติกเนื้อทินท์
ลิปสติกเนื้อทินท์ (Tint Lipstick) เป็นลิปสติกที่มีเนื้อเหลว แต่จะไม่ฉ่ำวาวเท่าลิปกลอส เมื่อทาลงไปบนปากแล้วจะแนบไปกับริมฝีปาก ติดทน หรือเมื่อเนื้อลิปหลุดไปแล้วก็จะยังทิ้งสี (stain) ไว้บนริมฝีปาก นิยมทาด้านในปากจะได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ หรือทาเป็นชั้นแรกก่อนทาลิปสติกอื่น ๆ ทับ เพื่อให้ริมฝีปากไม่ซีดแม้ลิปสติกจะหลุดออกไปแล้ว
5. ลิปสติกเนื้อครีม
ลิปสติกเนื้อครีม (Creamy Lipstick) เป็นลิปสติกเนื้อนุ่ม ลักษณะเนื้อลิปคงรูปได้ แต่ไม่แข็งจนเกินไป มักมาในรูปแบบแท่ง ให้เม็ดสีที่ชัดเจน เนื้อไม่ติดทนมากนัก แต่ไม่แห้ง ด้วยลักษณะที่เป็นแท่งจึงนิยมพกไว้เติมระหว่างวัน
6. ลิปสติกเนื้อกำมะหยี่
ลิปสติกเนื้อกำมะหยี่ (Velvet Lipstick) มีลักษณะกึ่งด้าน แต่จะไม่ด้านเท่ากับลิปแมท ยังมีความวาวเล็กน้อย เนื้อจะนุ่ม ติดทน แต่ไม่แห้ง เหมาะสำหรับคนที่อยากทาลิปแมทแต่มีปัญหาริมฝีปากแห้ง เพราะยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ทำให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี
7. ลิปสติกเนื้อเมทัลลิก
ลิปสติกเนื้อเมลทัลลิก (Metallic Lipstick) มีชิมเมอร์เนื้อละเอียดอยู่ในลิป ทำให้เนื้อลิปเล่นแสงเป็นประกายมุก ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มมีมิติ เนื้อลิปสติกติดทนปานกลาง
8. ลิปสติกเนื้อซาติน และ เนื้อเชียร์
ลิปสติกเนื้อซาลินและเนื้อเชียร์ (Sheer and Satin Lipstick) ลิปสติกลักษณะนี้จะดูคล้ายกับลิปสติกเนื้อครีม คือมีเนื้อนุ่ม ชุ่มชื้น แต่ไม่เหลว ลิปสติกเนื้อซาตินและเนื้อเชียร์จะมีเม็ดสีที่บางกว่า เมื่อทาแล้วจะดูเนียนสวย เหมาะกับคนที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ
9. ลิปไลน์เนอร์
ลิปไลน์เนอร์ (Lip Liner) จะเนื้อลิปที่แข็งและคงรูปกว่าลิปสติกแบบอื่น ๆ มักมาในรูปแบบดินสอหรือแท่งหมุนที่มีหัวเรียวเล็ก เพราะจะต้องใช้เขียนขอบปากให้ชัด นิยมใช้ลิปเขียนขอบปากสีเดียวหรือใกล้เคียงกับสีลิปสติกเพื่อให้ทาลิปสติกแล้วดูสวย คมชัด หรือบางคนนิยมใช้สีที่ต่างออกไป เป็นแฟชั่นที่จะเน้นให้ริมฝีปากดูสวยโดดเด่นมากกว่า
ส่วนประกอบที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตลิปสติก
ในปัจจุบันมีส่วนประกอบหลากหลายอย่างที่โรงงานผลิตลิปสติกหรือเจ้าของแบรนด์ลิปสติกนิยมนำมาใส่ในผลิตภัณฑ์ลิปสติกของตัวเองเพื่อเพิ่มคุณภาพ เพราะในปัจจุบันไม่ว่าจะทำลิปสติกรูปแบบใดก็สามารถผสานสรรพคุณในการบำรุงเข้าไปได้
1. ขี้ผึ้ง (Bees wax)
เป็นส่วนผสมยอดนิยมในการผลิตลิปสติกรวมถึงเครื่องสำอางอื่น ๆ เป็นสารที่ผึ้งผลิตเพื่อสร้างรังของมัน เนื้อนุ่ม ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ลดการสูญเสียน้ำ ช่วยให้พื้นผิวเรียบลื่น จะช่วยเติมเต็มร่องปากทำให้ได้ริมฝีปากที่อิ่มสวย ไม่ตกร่อง
2. Jojoba Oil
โจโจ้บาออย สกัดจากเมล็ดโจโจ้บา พืชในทวีปแอฟริกา สารสกัดจากโจโจ้บามีทั้งวิตามินและแร่ธาตุ มีสรรพคุณช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอย ทั้งยังมีวิตามินบีช่วยปลอบประโลมผิวส่วนที่ไหม้แดด สามารถบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตกให้กลับมาชุ่มชื้นมีสุขภาพดีได้
3. Sweet Almond Oil
น้ำมันสวีทอัลมอนด์ มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื่น ช่วยลดการระคายเคือง ในน้ำมันสวีทอัลมอนด์จะประกอบไปด้วยวิตามินมากมาย ทั้ง Vitamin A, B1, B2, B6 และ E ช่วยบำรุงให้ริมฝีปากนุ่ม ชุ่มชื้น ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ทั้งยังเหมาะสำหรับคนที่แพ้ง่ายอีกด้วย
เป็นเจ้าของแบรนด์ลิปสติกดียังไง เทรนด์ตลาดลิปสติกตอนนี้เป็นยังไง ?
ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่สาว ๆ ขาดไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนที่ชอบแต่งหน้า แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุก ๆ คน ก็คงจะพกลิปสติกกันตายติดตัวไว้คนละแท่งสองแท่ง หรือไม่ก็ต้องมีลิปบาล์มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แม้แต่ผู้ชายหลายคนก็เริ่มหันมาใช้ลิปบาล์มหรือลิปสีอ่อน ๆ กันแล้ว
ทำให้ในปัจจุบันตลาดการเป็นเจ้าของแบรนด์ลิปสติกนั้นเปิดกว้าง ผู้บริโภคมีสินค้าจากแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องผูกติดอยู่กับแบรนด์ใหญ่ ๆ อีกต่อไป ทั้งเทรนด์การซื้อลิปสติกในปัจจุบันก็หันมาโฟกัสที่คุณภาพและเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์กันมากขึ้น ดังนั้นการเป็นเจ้าของแบรนด์ลิปสติกจึงเป็นโอกาสดีที่คุณจะสามารถประสบความสำเร็จในตลาดนี้ หากทําแบรนด์ลิปสติกที่มีคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ของลูกค้า
ในปัจจุบัน ผู้คนหันมาสนใจความงามที่เกิดจากการสุขภาพดีจากภายใน ควบคู่ไปกับการตกแต่งภายนอก ทำให้ลิปบาล์มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เพราะเทรนด์ใหม่ ๆ นั้นเน้นริมฝีปากที่ดูสวยสุขภาพดี เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีหลายแบรนด์ที่นำเอาจุดเด่นด้านการเป็นลิปบาล์มออร์แกนิกมาชูเป็นจุดขายในการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ หรือเป็นลิปบาล์มที่ให้สีที่ชัดขึ้นกว่าลิปบาล์มทั่วไป เทรนด์การใช้ลิปบาล์มในปัจจุบันจึงไม่ใช้แค่การบำรุง แต่ต้องการจุดเด่นอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย
ใครที่สนใจต้องการสร้างแบรนด์ลิปบาล์ม ลิปสติก กำลังมองหาโรงงานผลิตลิปบาล์ม โรงงานผลิตลิปสติก หรือทั้งสองอย่างในที่เดียว สามารถติดต่อที่ Pure Derima Laboratories ได้เลย
ขั้นตอนการผลิตลิปสติก
Step 1 : เลือกสูตรลิปสติกที่ต้องการผลิต
โรงงานผลิตลิปสติกของ PDL มีสูตรในการผลิตลิปสติกที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาโรงงานรับผลิตลิปกลอส โรงงานรับผลิตลิปออร์แกนิก หรือรับผลิตลิปแมท เราก็มีสูตรที่รองรับกับความต้องการ เมื่อได้สูตรลิปสติกที่ต้องการแล้ว คุณยังสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อีกด้วย
Step 2 : รับใบเสนอราคา และชำระมัดจำ
หลังจากได้สูตรลิปสติกที่ต้องการแล้ว ผู้แทนขายจะจัดทำใบเสนอราคาเพื่อส่งให้กับทางเจ้าของแบรนด์ โดยจะต้องชำระเงินมัดจำก่อนที่โรงงานผลิตลิปสติกจะเริ่มดำเนินการผลิต 50% ของยอดใบเสนอราคา โดยหลังจากนั้นบริษัทจะทำการจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของทางลูกค้าโดยใช้เวลา 7-14 วันทำการ
Step 3 : คิดค้น วิจัย และพัฒนาสูตรลิปสติกแบรนด์ของคุณ
คุณสามารถเลือกและพัฒนาสูตรลิปสติกภายใต้แบรนด์ของคุณเอง เพื่อให้ได้สินค้าที่ตรงตามความต้องการ โรงงานผลิตลิปสติกของเรามีนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางซึ่งสามารถให้คำแนะนำในการพัฒนาสูตรได้อย่างครอบคลุม
Step 4 : เริ่มกระบวนการผลิต
เมื่อได้สูตรที่ตรงใจ ได้โลโก้ของแบรนด์ รวมถึงดีไซน์ฉลากผลิตภัณฑ์แล้ว ทางโรงงานผลิตลิปสติกจะเริ่มดำเนินการผลิตสินค้า โดยอาจใช้เวลา 14-20 วันทำการ
Step 5 : ชำระมัดจำส่วนที่เหลือ
เมื่อสินค้าผลิตเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าสามารถชำระเงินส่วนที่เหลือ 50 % ได้เลย
Step 6 : โรงงานส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า
ทางโรงงานผลิตลิปสติก จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วให้กับทางลูกค้า
แพ็กเกจราคาเริ่มต้นจากโรงงานรับผลิตลิปสติก
หากต้องการทําลิปสติกแบรนด์ตัวเอง ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของการสั่งผลิตลิปสติกจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสูตรลิปสติกที่เลือก โดยทางโรงงานผลิตลิปสติกมีแพ็กเกจราคาเริ่มต้นดังนี้
- Power Matte Lip Colour เริ่มต้นที่ 10,000 บาท/กิโลกรัม
- Metallic Liquid Lip เริ่มต้นที่ 12,000 บาท/กิโลกรัม
- Lip Balm เริ่มต้นที่ 2,000 บาท/กิโลกรัม
- Magic Lip Treatment เริ่มต้นที่ 7,000 บาท/กิโลกรัม
- Intensive Treatment Lip Scrub เริ่มต้นที่ 2,500 บาท/กิโลกรัม
- Intensive Treatment Lip เริ่มต้นที่ 4,000 บาท/กิโลกรัม
ระยะเวลาดำเนินการผลิตลิปสติก
ระยะเวลาในการดำเนินการผลิตลิปสติกของทางโรงงานผลิตลิปสติกจะแบ่งออกเป็นระยะเวลาในการเตรียมการผลิตและระยะเวลาการผลิต โดยระยะเวลาในการเตรียมการผลิตคือหลังจากที่ทางเจ้าของแบรนด์ได้เลือกสูตรและบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการ รวมถึงมีการดีไซน์โลโก้แบรนด์และฉลากออกมาแล้ว ทางบริษัทรับผลิตลิปสติกจะทำเรื่องขอจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งอาจจะใช้เวลาอยู่ที่ 7-14 วัน
หลังจากนั้น เมื่อลูกค้าชำระเงินมัดจำ 50% ของใบเสนอราคาแล้ว จะเข้าสู่ระยะเวลาการผลิต ทางโรงงานผลิตลิปสติกจะเริ่มต้นกระบวนการผลิตและบรรจุ ซึ่งอาจจะใช้เวลาอยู่ที่ 14-20 วันทำการ
แนะนำ วิธีเลือกโรงงานผลิตลิปสติก
การเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตลิปสติก โรงงานผลิตลิปบาล์ม หรือสินค้าอื่น ๆ อย่างโรงงานผลิตรองพื้น สร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า ควรเลือกโรงงานที่ได้รับการรับรองผ่านมาตรฐานสากล มีการขึ้นทะเบียนถูกต้อง
นอกจากนี้ ควรเลือกโรงงานผลิตลิปสติก โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่เป็น one stop service สามารถให้คำปรึกษาในด้านธุรกิจควบคู่ไปกับการผลิตสินค้า เป็น Partner ทางธุรกิจที่มีประสบการณ์ ช่วยสร้างแบรนด์สินค้าตั้งแต่การออกแบบ เลือกสูตร ไปจนถึงการจดทะเบียน เพื่อให้แน่ใจได้ว่าผลิตสินค้าออกมาแล้วจะมีตลาดรองรับ
ที่ Pure Derima Laboratories เราดำเนินธุรกิจในรูปแบบ OEM (Original Equipment Manufacturing) และ ODM (Original Design Manufacturer) ทำให้มีทั้งบริการผลิตตามสูตร และบริการวิจัยพัฒนาสูตรในกรณีที่ต้องการสร้างสูตรเครื่องสำอางของตนเอง เราจะร่วมสร้างแบรนด์และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า เป็นที่ปรึกษาธุรกิจความงามที่เข้าใจการทำธุรกิจ มีประสบการณ์สูง