รับผลิตครีมบำรุงผิว
โรงงานผลิตครีมกันแดด พร้อมสร้างแบรนด์ครีมกันแดดแบบครบวงจร
เมื่อต้องเผชิญกับแดดที่คอยทำร้ายผิวเราทุกวัน ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้คนทุกวัย ทำให้ความต้องการใช้ครีมกันแดดยังคงเพิ่มสูงขึ้นในท้องตลาด หากใครที่อยากเริ่มทำธุรกิจด้วยตนเอง การทำแบรนด์ครีมกันแดดก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโรงงานผลิตครีมกันแดดแบบครบวงจร สามารถรับผลิตครีมกันแดดครบทุกประเภท และที่สำคัญต้องผ่านการวิจัยสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญ ทางบริษัท Pure Derima Laboratories เป็นหนึ่งในโรงงานผลิตครีม และโรงงานผลิตครีมกันแดดสร้างแบรนด์ ที่ได้มาตรฐานผ่านการยอมรับ เน้นคุณภาพ มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตครีมกันแดด ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว พร้อมให้บริการแบบ One stop service ตั้งแต่ให้คำปรึกษา การวิจัยและพัฒนาสูตร การขึ้นทะเบียนเอกสาร ไปจนถึงการออกแบบฉลากสินค้า
Pure Derima Laboratories โรงงานผลิตรับผลิตครีมกันแดด มาตรฐานระดับสากล
โรงงานผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories รับผลิตครีมกันแดดทุกประเภท ตามมาตรฐาน GMP ASEAN, ISO 22716, HALAL และมาตรฐานอื่น ๆ ที่ผ่านการยอมรับ โดยลูกค้าสามารถเลือกสูตรมาตรฐานของทางบริษัท หรือจะใช้สูตรที่คิดค้นขึ้นมาเองก็ทำได้ เพราะเราดำเนินธุรกิจแบบ ODM/OEM พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย มุ่งเน้นรับผลิตกันแดดที่มีความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้ ซึ่งเรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญทั้งนักเคมีและเภสัชกร ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและวิจัยสูตรมากกว่า 10 ปี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์จากโรงงานผลิตกันแดด Pure Derima ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้โรงงานผลิตครีมและครีมกันแดดของเรายังได้รับความไว้ใจจากกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย เช่น คลินิกแพทย์ผิวหนัง ศูนย์บริการความงาม สถานบริการสปา รวมไปถึงผู้ที่ต้องการทำแบรนด์ครีมกันแดด หรือผู้ที่สร้างแบรนด์ตัวเองอีกด้วย เพราะ Pure Derima สามารถผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดออกมาได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเป็นอันดับแรก และยังเป็นบริษัทผลิตครีมกันแดดบริษัทเดียวที่สามารถปรับสูตร ทำราคาครีมกันแดดให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจของคุณ และทำให้คุณได้กำไรสูงที่สุด
รับผลิตครีมกันแดด หลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับทุกการใช้งาน
Pure Derima Laboratories รับผลิตครีมกันแดดหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับทุกการใช้งาน ทุกสภาพผิว ไม่ว่าผิวประเภทไหนก็เอาอยู่ เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกเนื้อสัมผัสที่ตนเองสนใจได้ เช่น
1. ครีมกันแดดเนื้อเจล
ครีมกันแดดเนื้อเจลเบาสบาย ให้ความรู้สึกเหมือนน้ำ ๆ ไม่หนักผิว แห้งไว ซึมซาบดี ผิวไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว จะผิวมันก็เอาอยู่ ผิวแห้งก็หน้าชุ่มชื้น
2. ครีมกันแดดเนื้อครีม
ครีมกันแดดเนื้อครีมอาจทำให้รู้สึกหนึบหน้ากว่าครีมกันแดดเนื้อเจลเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬากลางแจ้ง และไม่ค่อยมีปัญหาสิว นอกจากนี้กันแดดเนื้อครีมยังมีจุดเด่นที่การบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้มีปัญหาผิวแห้งอีกด้วย
3. ครีมกันแดดเนื้อน้ำนม
ครีมกันแดดเนื้อน้ำนมให้ความรู้สึกเบาสบาย คล้ายกันแดดสูตรน้ำ ค่อนข้างเหลว แต่ยังคงความเข้มข้นของเนื้อสัมผัส ใช้ง่าย เหมาะสำหรับผู้มีผิวหน้าทุกประเภท ทั้งคนผิวมัน ผิวแห้ง กันแดดเนื้อน้ำนมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย
4. ครีมกันแดดผสมรองพื้น
ครีมกันแดดผสมรองพื้นเหมาะสำหรับคนที่ต้องการจบครบ ภายในตัวเดียว ไม่จำเป็นต้องทารองพื้นเพิ่ม โดยเนื้อครีมจะสามารถปกปิดผิวหน้าได้อย่างเรียบเนียน ทำให้หน้าผ่องได้ตลอดวัน
5. ครีมกันแดดแบบสเปรย์
ครีมกันแดดแบบสเปรย์มักมาในรูปแบบกระป๋อง สามารถฉีดลงบนผิวบริเวณที่ต้องการได้โดยตรง เหมาะสำหรับคนที่ชอบพกพาไว้ฉีดเติมระหว่างวัน ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ฉีดแล้วไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว
6. ครีมกันแดดแบบแท่ง
ครีมกันแดดแบบแท่งเรียกได้ว่ามาแรงในขณะนี้เลย เพราะมีจุดเด่นที่พกพาสะดวก ใช้ง่าย เพียงแค่เปิดฝาและหมุนครีมกันแดดออกมาทา เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้น สามารถทาทับเครื่องสำอางระหว่างวันก็ได้ด้วย โดยไม่ทิ้งคราบมันเอาไว้ ไม่ต้องใช้มือเกลี่ย ให้ความรู้สึกสบายผิวมากกว่าเดิม
7 สูตรครีมกันแดดจาก Pure Derima คิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสร้างแบรนด์ครีมกันของคุณ
โรงงานผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories ไม่เพียงแต่มีนักเคมีเครื่องสำอาง และนักวิทยาศาสตร์ แต่ยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังเข้าร่วมทำการวิจัยและพัฒนาสูตรอีกด้วย เพื่อผลิตครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับทุกปัญหาผิว โดย 7 สูตรครีมกันแดดจาก Pure Derima ที่ถูกคิดค้นขึ้น พร้อมสำหรับทำแบรนด์ครีมกันแดดมีรายละเอียดดังนี้
1. Sunscreen Cream (Soft Beige) SPF 50 PA+++
ครีมกันแดดสูตรปกป้องผิว เนื้อครีมนุ่มลื่น ละเอียด บางเบาเหมือนล่องหนได้ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB สามารถใช้แทนครีมรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้
2. Silky Smooth Foundation Sunscreen SPF 50 PA+++
ครีมกันแดดผสมรองพื้น เนื้อครีมบางเบา ผสานคุณค่าจาก Silk Protein ให้เรียบเนียนไปกับผิวหน้า ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ลดการเกิดผิวหน้าหมองคล้ำ ชะลอริ้วรอยไม่ให้เกิดเร็วก่อนวัยอันควร อีกทั้งยังสามารถใช้แทนครีมรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
3. Milky Sunscreen Lotion SPF 50 PA+++
โลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนมที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาไร้ความมัน อ่อนโยน สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB สาเหตุหนึ่งของผิวหมองคล้ำ และยังเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วย
4. Matte Fluid SPF 30 PA+++
ครีมกันแดดผสมรองพื้น เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่อุดตันรูขุมขน ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่คอยทำร้าย ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน อีกทั้งยังสามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย
5. Anti-pollution Sunscreen SPF 50 PA+++
ครีมกันแดดเนื้อนุ่มสบายผิว มีความบางเบา ตัวช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB รวมถึงยังช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะต่าง ๆ จากสารสกัดจากธรรมชาติ
6. Sunscreen Cream Soft Beige SPF 50 PA+++
ครีมกันแดดเนื้อครีมสูตรนุ่มลื่น บางเบา สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ต้นเหตุของการเกิดผิวหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ยังใช้แทนครีมรองพื้นก่อนแต่งหน้าก็ได้
7. Premium Silky Smooth Sunscreen SPF 50 PA+++
ครีมกันแดดสูตรปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า (Blue Light) จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรศัพท์มือถือ และหลอดไฟ สามารถปกป้องการทำลายผิวระดับลึกได้ ด้วยคุณสมบัติเนื้อครีมสีเบจ พร้อมช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ
เป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดด ดียังไง
ในยุคปัจจุบันที่ใครหลายคนหันมาเป็นเจ้าของแบรนด์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง เจ้าของแบรนด์อาหารเสริม เจ้าของแบรนด์ร้านอาหาร เป็นต้น แล้วผู้ที่จะเริ่มต้นทำแบรนด์เป็นของตนเองจะรู้ได้อย่างไรว่า เราควรทำอะไร หรือควรขายสิ่งไหนเป็นอันดับแรก ในส่วนนี้เราคงต้องเริ่มจากสิ่งที่ตนเองชอบ หรือสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิต หรือขายได้ทุกช่วงเวลาก่อน ซึ่งหนึ่งในคำตอบนี้คือ การลงทุนทำแบรนด์ครีมกันแดดนั่นเอง
อย่างที่กล่าวไปว่าครีมกันแดดนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นต่อผู้คนอยู่ตลอดเวลา หากใช้หมดก็ต้องกลับมาซื้อซ้ำเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้การเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพดี ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจคุณอยู่ทุกช่วงเวลา
โรงงานผลิตครีมกันแดด Pure Derima เราเชื่อว่าในกระบวนการผลิตครีมกันแดดของเรามีการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้รับผลิตครีมกันแดด พร้อมมีระบบควบคุมคุณภาพของสินค้าในทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการทำราคาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจของคุณด้วย
ครีมกันแดดควรมี SPF และ PA ในปริมาณเท่าไหร่
ยังคงเป็นข้อสงสัยที่ใครหลายคนยังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วครีมกันแดดควรมี SPF และ PA เท่าไร ถึงจะสามารถปกป้องแสงแดดได้? ซึ่งความเป็นจริงแล้ว การเลือกค่า SPF และ PA ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB มากน้อยแค่ไหน โดยครีมกันแดดแต่ละยี่ห้อก็จะมีค่าตัวเลขที่แตกต่างกัน
สำหรับประเทศไทยที่มีอากาศร้อนและแดดแรง ทาง Pure Derima แนะนำว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี SPF 15 ไปจนถึง SPF 50+++ จะดีที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งได้ตามลักษณะการใช้ชีวิตดังนี้
- SPF 15 ขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในร่ม หรือทำงานในออฟฟิศทั่วไป
- SPF 30 ขึ้นไป เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่กลางแจ้ง โดนแดด หรือมีโรคกลุ่มไวต่อแสงแดด
ขั้นตอนการผลิตครีมกันแดด
ในขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด ของทางโรงงานผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories ให้บริการแบบครบวงจร พร้อมทำแบรนด์ครีมได้เลย โดยมีรายละเอียดดังนี้
Step 1 : เลือกสูตรที่ต้องการผลิตครีมกันแดด
ในขั้นตอนแรกของการสั่งผลิตครีมกันแดด ลูกค้าจะต้องทำการเลือกสูตรที่ต้องการอยากทำแบรนด์ครีมกันแดดก่อน โดยสามารถเลือกได้ว่า จะพัฒนาสูตรในรูปแบบมาตรฐานของทางโรงงานผลิตครีมกันแดด หรือจะพัฒนาสูตรใหม่ หรือจะใช้สูตรของตนเอง ก็ทำได้ พร้อมทั้งตกลงรายละเอียดของครีมกันแดดให้เรียบร้อย
Step 2 : รับใบเสนอราคา และชำระมัดจำ
เมื่อลูกค้าตกลงได้สูตรที่พึงพอใจแล้ว ทางโรงงานผลิตครีมกันแดดจะทำตัวอย่างสูตรมาให้ลูกค้าพิจารณา รวมถึงจะมีการส่งใบประเมินความพึงพอใจมาด้วย หากลูกค้าพึงพอใจกับสูตร และประเมินความพึงพอใจเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องชำระเงินมัดจำก่อนการผลิต 50% ตามใบเสนอราคา พร้อมก้าวสู่ขั้นตอนต่อไปนั่นก็คือ จะมีการจดแจ้ง อย. นั่นเอง (สำหรับการจดแจ้งจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการ)
Step 3 : ดีไซน์ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดแบรนด์ของคุณ
หลังจากที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาจะเข้าสู่การออกแบบโลโก้ ฉลาก กล่อง ของแบรนด์ครีมกันแดด เพื่อพร้อมส่งให้ทางบริษัทตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
Step 4 : เริ่มกระบวนการผลิต
เมื่อบรรจุภัณฑ์ครีมกันแดดถูกออกแบบเสร็จสิ้น ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตครีมกันแดด โดยจะใช้เวลาประมาณ 14-20 วันทำการ
Step 5 : ชำระมัดจำส่วนที่เหลือ
หลังจากที่สินค้าถูกผลิตเสร็จสิ้น ลูกค้าจะต้องชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50%
Step 6 : โรงงานส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการผลิตทั้งหมด ลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าต่อไปได้เลย
อยากสร้างแบรนด์ครีมกันของตัวเอง ต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ ?
หากอยากสร้างแบรนด์ครีมกันแดดเป็นของตัวเองได้นั้น ควรจะมีเงินทุนและเงินสำรองอย่างน้อยประมาณ 20.000-30,000 บาทขึ้นไป ถึงจะไม่ติดขัดหรือขัดสนทางในการวางแผนการเงิน เนื่องจากการสร้างแบรนด์ครีมกันแดดเป็นของตนเองไม่ได้จบแค่การผลิตครีมกันแดดเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยที่อาจเพิ่มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น ค่าโฆษณา ค่าการตลาด เป็นต้น ดังนั้นทางโรงงานผลิตครีมกันแดดจึงแนะนำให้ผู้เริ่มทำแบรนด์ครีมกันแดดคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
ระยะเวลาดำเนินการผลิตครีมกันแดด
โดยปกติแล้ว ทางโรงงานผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories จะใช้เวลาดำเนินการรับผลิตครีมกันแดดทั้งกระบวนการอยู่ที่ประมาณ 30 วันทำการ
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโรงงานผลิตครีมกันแดดที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมบริการแบบครบวงจร ที่บริษัทรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories เราพร้อมดูแลและให้ความสำคัญของการผลิตครีมกันแดดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิจัยสูตร พัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพของสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจมากที่สุด
หากสนใจผลิตครีมกันแดดกับทางโรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ ดังนี้
โทร. 02-285-4266
Line: @purederima
Facebook: Pure Derima Laboratories