โรงงานรับผลิต Body Oil ต้องเลือกยังไง อยากเริ่มสร้างแบรนด์ต้องรู้อะไรบ้าง?
ปัจจุบันหลายคนหันมาใส่ใจเรื่องผิวกันมากขึ้น ทำให้ Body Oil กลายเป็นสกินแคร์มาแรงที่คนเริ่มหันมาให้ความสนใจกันอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่ให้ความชุ่มชื้นแบบล้ำลึก ใช้งานง่าย แถมยังมีกลิ่นหอมผ่อนคลาย จนทำให้ธุรกิจของ Body Oil เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับใครที่สนใจอยากเริ่มทำแบรนด์ Body Oil ของตัวเอง บทความนี้จะพาไปรู้จักว่า Body Oil คืออะไร? มีจุดเด่นอย่างไร? และคนที่อยากทำแบรนด์ต้องรู้อะไรบ้างก่อนเริ่มผลิต เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม และเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจ
Body oil คืออะไร
Body Oil คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่มีลักษณะเป็นน้ำมัน โดยทำหน้าที่มอบความชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวแห้งเสียให้เนียนนุ่ม Body Oil มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันมะพร้าว น้ำมันโรสฮิป หรือ Essential Oil ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดนั้นก็จะมีคุณสมบัติในการดูแลผิวที่แตกต่างกันไป โดยการใช้ body oil บำรุงผิว ควรใช้ควบคู่กับโลชั่นทาผิว และครีมกันแดด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว และการปกป้องผิวจากแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ

Body Oil มีจุดเด่นอะไร ?
Body Oil ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูง และยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย ดังนี้
- Body Oil ซึมซาบได้อย่างล้ำลึก เนื่องจาก Body Oil มีโมเลกุลขนาดเล็กจึงทำให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มได้
- Body Oil ช่วยเสริมเกราะป้องกันความชุ่มชื้น โดย Body Oil จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว ช่วยลดการสูญเสียน้ำ ให้ผิวดูชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้งกร้าน
- Body Oil สามารถใช้ได้ทั้งเดี่ยวและร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น Body Oil สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น หรือครีมกันแดด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว และช่วยล็อกความชุ่มชื้นของผิวได้ดีขึ้น
- Body Oil มีกลิ่นหอมช่วยผ่อนคลายทั้งกายและใจ Body Oil โดยส่วนมากจะมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย ที่ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ระหว่างการใช้ ซึ่งกลิ่นหอมของ Body Oil นั้นจะช่วยสร้างความผ่อนคลาย ลดความเครียดได้เป็นอย่างดี
Body Oil เหมาะกับใคร?
- Body Oil เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวลอกเป็นขุย
Body Oil สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวที่ขาดน้ำ พร้อมลดอาการผิวแห้งตึง ลอกเป็นขุย และคัน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้งมาก หรือในช่วงอากาศหนาวที่ผิวขาดความชุ่มชื้น - Body Oil เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่มและสุขภาพดี
ผิวที่คล้ำเสียจากแดด จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแล ซึ่งการใช้ Body Oil จะช่วยปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น มีความเรียบเนียน และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ได้ - Body Oil เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
โดยส่วนมากแล้วนั้น Body Oil เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติ และน้ำมันหอมระเหย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์แบบออร์แกนิก - Body Oil เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
Body Oil มีหลากหลายสูตรให้ได้เลือก สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง Body Oil สามารถช่วยลดการระคายเคืองผิว ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวจากความแห้งกร้าน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถเลือกใช้สูตรที่มีความอ่อนโยนต่อผิวได้ - Body Oil เหมาะกับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
Body Oil มีความโดดเด่นในเรื่องของกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย ซึ่งกลิ่นหอมนั้นสามารถช่วยลดความเครียด ให้ความสงบ และช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจได้
Body Oil มีประโยชน์อะไรบ้าง?
Body Oil เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งไอเทมดูแลผิวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติที่หลากหลาย ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม โดยประโยชน์ของ Body Oil มีดังนี้
- Body Oil ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก
- Body Oil ช่วยป้องกันการเสียน้ำของผิว
- Body Oil ช่วยฟื้นฟูผิวแห้ง ลอกเป็นขุย ให้กลับมานุ่มเนียน
- Body Oil ช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
- Body Oil ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
- Body Oil ช่วยผ่อนคลายความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ
Body Oil เลือกอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว
หากพูดถึง Body Oil หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่ามีแค่ผู้ที่ผิวแห้งเท่านั้นจึงใช้ได้ แต่ความจริงแล้วนั้น Body Oil สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพียงแค่เลือกใช้ให้ตรงกับปัญหาผิว เนื่องจาก Body Oil สามารถช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังช่วยลดโอกาสการระคายเคืองผิวได้ ซึ่งวิธีการเลือก Body Oil ให้เหมาะกับสภาพผิว มีดังนี้
- ผิวแห้ง
ผู้ที่มีผิวแห้งควรเลือกใช้ Body Oil ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้สูง สามารถล็อกความชุ่มชื้นได้นาน และช่วยลดการระคายเคืองผิวแห้ง ลอก หรือเป็นขุยได้ เช่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว หรือเชียบัตเตอร์ออยล์ - ผิวมันหรือผิวผสม
ผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสมควรเลือกใช้ Body Oil ที่มีความบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และช่วยเติมความชุ่มชื้นได้ โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน เช่น น้ำมันโจโจ้บา หรือน้ำมันเมล็ดองุ่น - ผิวแพ้ง่าย
ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้ Body Oil ที่ปราศจากสารเคมี อย่าง น้ำหอม สีสังเคราะห์ และสารเคมีรุนแรง ควรเลือกใช้ Body Oil ที่มาจากธรรมชาติ เพื่อช่วยลดการอักเสบของผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เช่น น้ำมันดอกคาเลนดูลา หรือน้ำมันอาร์แกน - ผิวธรรมดา
ผู้ที่มีผิวธรรมดาหรือไม่มีปัญหาผิว สามารถเลือกใช้ Body Oil ได้อย่างหลากหลาย สามารถเลือกใช้ Body Oil ที่ให้ความรู้สึกสบายผิว เน้นกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพื่อช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ หรือเลือก Body Oil ตามช่วงเวลาเช่นเดียวกับการใช้สกินแคร์ เช่น Body Oil สูตรเข้มข้นในการบำรุงผิวช่วงกลางคืน และเลือกใช้ Body Oil สูตรบางเบาในช่วงกลางวัน
Body Oil กับ Body Lotion ต่างกันอย่างไร?
ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือผู้ผลิต หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า Body Oil และ Body Lotion ต่างกันไหม ? ต่างกันอย่างไร? โดยทั้ง Body Oil และ Body Lotion นั้นจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ การบำรุงผิว เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวกายได้เหมือนกัน แต่ทั้ง 2 ก็จะมีความแตกต่างในส่วนของลักษณะของผลิตภัณฑ์ และส่วนผสม ดังนี้
- ส่วนประกอบหลัก
- Body Oil มีส่วนผสมที่มาจากน้ำมันธรรมชาติหรือการสังเคราะห์ เช่น น้ำมันพืช น้ำมันหอมระเหย โดยมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก
- Body Lotion มีส่วนผสมที่หลากหลายโดยส่วนประกอบหลัก คือ น้ำและน้ำมันในอัตราที่สมดุล และยังมีส่วนผสมเพิ่มเติมเช่น วิตามิน กลีเซอรีน หรือสารกันแดด ที่จะช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก แก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย
- ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์
- Body Oil มีเนื้อสัมผัสที่เป็นน้ำมัน ทำให้มีความเข้มข้นสูง ทำให้ซึมช้ากว่าโลชั่น จึงเหมาะสำหรับใช้หลังอาบน้ำขณะผิวยังหมาด เพื่อช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้ง
- Body Lotion มีเนื้อสัมผัสเป็นเนื้อครีม มีความบางเบา เกลี่ยง่าย และซึมซาบเร็วกว่า Body Oil จึงเหมาะสำหรับใช้บำรุงผิวในชีวิตประจำวันทั่วไป และยังสามารถใช้ได้บ่อย ๆ
- ความชุ่มชื้นและการบำรุง
- Body Oil ช่วยให้ความชุ่มชื้นล้ำลึก พร้อมกักเก็บน้ำในชั้นผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งมาก หรือผิวที่คล้ำเสียจากแสงแดดหรือมลภาวะต่าง ๆ และต้องการการบำรุงขั้นสุด
- Body Lotion ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทั้งยังมีหลากหลายสูตรที่ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ลดริ้วรอย และช่วงป้องกันแสงแดดและมลภาวะได้ สามารถบำรุงผิวได้ทุกวัน เหมาะกับทุกสภาพผิว
- ความรู้สึกหลังใช้
- Body Oil เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่เป็นน้ำมัน และยังมีความเข้มข้นสูง ทำให้หลังใช้ผิวมีความชุ่มชื้นที่ยาวนาน หากใช้ในปริมาณที่เยอะ อาจจะให้ความรู้สึกที่เหนอะหนะผิวได้
- Body Lotion ให้สัมผัสที่เบาสบายผิว ซึมไว ไม่เหนอะหนะ จึงสามารถใช้ได้ทุกวัน และให้ความสบายผิวตลอดทั้งวัน หากระหว่างวันรู้สึกว่าผิวแห้ง สามารถทาซ้ำได้
Body Oil ผลิตกับโรงงานรับผลิต Body Oil แบบ OEM/ODM ไหนดี?
การสร้างแบรนด์ Body Oil เป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากในปัจจุบัน Body Oil เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจครีมแต่ไม่มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง การใช้บริการโรงงานรับผลิต Body Oil แบบ OEM และ ODM จึงถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่
ความแตกต่างระหว่างโรงงานรับผลิต Body Oil แบบ OEM และ ODM
- โรงงานรับผลิต Body oil แบบ OEM (Original Equipment Manufacturer)
เป็นโรงงานรับผลิต Body Oil ที่รับการผลิตสินค้าตามที่ลูกค้ากำหนด โดยโรงงานรับผลิต Body Oil จะรับผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้าเป็นผู้กำหนดสูตร หรือแนวคิดของผลิตภัณฑ์เอง พร้อมบริการบรรจุและติดแบรนด์ให้เสร็จสมบูรณ์ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับแนวทางของแบรนด์ และสามารถพัฒนาสูตรที่ไม่ซ้ำใครได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสูตรเฉพาะของตนเอง ต้องการขยายแบรนด์ให้เติบโต - โรงงานรับผลิต Body oil แบบ ODM (Original Design Manufacturer)
เป็นโรงงานรับผลิต Body Oil ที่มีบริการรับผลิตสินค้า โดยทางโรงงานรับผลิต Body Oil ช่วยคิดค้นสูตร และออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้ หรือสามารถเลือกสูตรมาตรฐานโรงงานรับผลิต Body Oil นำมาปรับแต่งบางส่วนได้ โรงงานรับผลิต Body Oil พร้อมดูแลแบบครบวงจร เช่น การออกแบบสูตร พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สามารถวางขายภายใต้ชื่อแบรนด์ของลูกค้าได้ทันที ทำให้สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีสูตร หรือเจ้าของแบรนด์มือใหม่

ข้อดีของการใช้โรงงานรับผลิต Body Oil
- โรงงานรับผลิต Body oil ช่วยให้ประหยัดเวลาและต้นทุนในการเริ่มต้นธุรกิจ
เพราะการใช้โรงงานรับผลิต Body Oill จะทำให้ไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานรับผลิต Body Oil หรือวิจัยสูตรเองทั้งหมด
- โรงงานรับผลิต Body oil มีสูตรที่ได้มาตรฐานผ่านการทดสอบและมีคุณภาพ
เนื่องจากโรงงานรับผลิต Body Oil ส่วนใหญ่นั้นมีทีมวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ที่มีประสบการณ์ พร้อมยังมีการทดสอบความปลอดภัยตามมาตรฐาน ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ Body oil ที่ได้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว
- โรงงานรับผลิต Body oil มีบริการครบวงจร (One stop Service)
โรงงานรับผลิต Body oil พร้อมดูแลตั้งแต่การพัฒนาสูตร Body oil ออกแบบบรรจุภัณฑ์ การขอขึ้นทะเบียน อย. ไปจนถึงการผลิตและจัดส่งสินค้า ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของแบรนด์ได้
- โรงงานรับผลิต Body oil ช่วยสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้
เนื่องจากโรงงานรับผลิต Body oil สามารถปรับแต่งสูตร กลิ่น สี หรือส่วนผสมของ Body oil ให้มีความเฉพาะตัว และเข้ากับแบรนด์ได้มากขึ้น สามารถสร้างจุดขายที่โดดเด่น และมีความแตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาดได้

โรงงานรับผลิต Body Oil โดยบริษัท Pure Derima Laboratories จำกัด
โรงงานรับผลิต Body Oil Pure Derima Laboratories จำกัด รับผลิต Body Oil ครีมบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พร้อมให้บริการครบวงจรในรูปแบบ ONE STOP SERVICE ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และมาตรฐานการผลิตที่ครอบคลุมทั้งในระดับไทยและสากล ทั้งยังมีนักวิทยาศาสตร์และนักเคมีเครื่องสำอาง ที่มีประสบการณ์สูงในด้านการพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง Body Oil พร้อมให้บริการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเฉพาะของลูกค้าได้ โรงงานรับผลิต Body Oil Pure Derima Laboratories จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ Body Oil ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีความโดดเด่น
โรงงานรับผลิต Body Oil เพียว เดอริมา แลบบอราทอรีส์ มีมาตรฐานอะไรบ้าง
เพียว เดอริมา แลบบอราทอรีส์ เราเป็นโรงงานรับผลิต Body Oil ที่ผ่านการรับรองการผลิตระดับสากลจากหลายองค์กรชั้นนำ เช่น
- โรงงานรับผลิต Body Oil มีมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice)
- โรงงานรับผลิต Body Oil มีมาตรฐาน ASEAN Cosmetic GMP
- โรงงานรับผลิต Body Oil มีมาตรฐาน ISO 22716:2007
- โรงงานรับผลิต Body Oil มีมาตรฐาน ISO 9001:2015
- โรงงานรับผลิต Body Oil มีมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 2
- โรงงานรับผลิต Body Oil มีเครื่องหมาย Halal
นอกจากนี้โรงงานรับผลิต Body Oil เรายังได้รับรางวัล SME Awards 2 ปีซ้อน พร้อมประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงคุณภาพและความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการผลิต ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสามารถเติบโตในตลาดได้อย่างยั่งยืน
- ขั้นตอนการผลิต Body Oil กับโรงงานรับผลิต Body Oil เพียว เดอริมาเลือกผลิตภัณฑ์สูตรมาตรฐาน หรือสูตรพัฒนาของตัวเอง
ลูกค้าสามารถเลือกสูตร Body oil จากสูตรมาตรฐานของโรงงานรับผลิต Body Oil หรือเลือกสูตรพัฒนาของตัวเองได้ โดยทีมวิจัยและพัฒนาจะทำการพัฒนาปรับแต่งสูตร ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัมผัส กลิ่น หรือสารสกัด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
- ทดลองสูตรจาก Catalog หรือสูตรพัฒนา และสรุปผลต่อผู้ขาย
หลังจากเลือกสูตรที่ต้องการแล้ว ทางโรงงานรับผลิต Body Oil จะมีการทดลองสูตรเพื่อทดสอบคุณสมบัติ และทดสอบอาการแพ้หรือผลข้างเคียงของ Body oil จากนั้นทีมวิจัยและพัฒนาจะทำการสรุปผล และนำเสนอให้ลูกค้าพิจารณาก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต
- เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์
ลูกค้าทำการเลือกบรรจุภัณฑ์ Body oil ที่ต้องการ จากนั้นทีมวิจัยและพัฒนาจะทำการทดสอบความเข้ากันของบรรจุภัณฑ์กับตัว Body oil เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถคงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ และสามารถใช้งานได้จริง
- โรงงานรับผลิต Body oil จัดส่งใบเสนอราคาให้กับลูกค้า
เมื่อได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสูตร Body oil และเลือกบรรจุภัณฑ์ได้แล้ว ทางโรงงานรับผลิต Body oil จะทำการจัดส่งใบเสนอราคา พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อให้ลูกค้าได้พิจารณา
- ลูกค้าชำระเงินมัดจำ 50% เพื่อยืนยันการผลิต
จากนั้นลูกค้าจะต้องชำระเงินมัดจำ 50% ของยอดรวมตามใบเสนอราคา เพื่อเป็นการยืนยันการสั่งผลิต Body oil และเพื่อให้ทางโรงงานรับผลิต Body oil สามารถเริ่มดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้
- โรงงานรับผลิต Body oil ขอยื่นจดแจ้งเลขทะเบียน อย. ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า
ก่อนเริ่มการผลิต Body oil ทางโรงงานรับผลิต Body Oil จะดำเนินการขอยื่นจดแจ้งเลขทะเบียน อย. ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า เพื่อได้รับการรับรองว่าสามารถวางจำหน่าย Body oil ได้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยกระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ออกแบบโลโก้และฉลาก พร้อมให้โรงงานรับผลิต Body oil ตรวจสอบความถูกต้อง
หากลูกค้ามีโลโก้ของแบรนด์สามารถส่งให้กับทางโรงงานรับผลิต Body oil เพื่อทำการตรวจสอบก่อนผลิต แต่หากยังไม่มีโลโก้หรือฉลากสินค้า ทางโรงงานรับผลิต Body oil ก็มีบริการรับออกแบบเพื่อช่วยส่งเสริมแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ และมีความโดดเด่น จากทีมออกแบบมืออาชีพ
- เริ่มกระบวนการผลิตภายใต้มาตรฐานสากล
จากนั้นทางโรงงานรับผลิต Body Oil จะเริ่มกระบวนการผลิต Body oil ซึ่งการผลิตจะดำเนินการอยู่ภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับสากล ปลอดภัย สะอาด ปลอดเชื้อ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ Body oil ที่มีคุณภาพ และไม่เป็นอันตราย
- ลูกค้าชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50% เมื่อผลิตเสร็จสิ้น
เมื่อกระบวนการรับผลิต Body oil เสร็จสิ้น ทางโรงงานรับผลิต Body oil จะทำการออกใบแจ้งค่าใช้จ่ายสำหรับชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50% ก่อนการจัดส่งสินค้า
- โรงงานรับผลิต Body oil จัดส่งสินค้าให้ลูกค้า
เมื่อลูกค้าชำระเงินมัดจำส่วนที่เหลือครบถ้วนเรียบร้อยแล้วนั้น ทางโรงงานรับผลิต Body oil จะดำเนินการจัดส่ง Body oil ให้ลูกค้าในรูปแบบที่พร้อมจำหน่าย และโรงงานรับผลิต Body oil ของเรายังมีบริการหลังการขายที่จะช่วยให้คำแนะนำการวางแผนด้านการตลาด เพื่อช่วยให้ลูกค้า หรือเจ้าของแบรนด์มือใหม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Body Oil ควรเลือกสารสกัดอย่างไร ให้ได้คุณภาพ
ส่วนผสมหรือสารสกัด ถือเป็นหัวใจสำคัญของการผลิต Body Oil เพราะคุณภาพของส่วนผสมนั้นจะส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความรู้สึกของผู้บริโภค การเลือกใช้ส่วนผสมที่มีมาตรฐานจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ โดยแนวทางการเลือกส่วนผสมที่สำคัญ มีดังนี้
Body oil เลือกน้ำมันพื้นฐาน (Carrier Oil) ที่เหมาะกับสภาพผิว
Carrier Oil คือ ส่วนผสมหลักน้ำมันหลักที่เป็นตัวพาน้ำมันหอมระเหยเข้าสู่ผิว ควรเลือกน้ำมันที่ผ่านการสกัดเย็น (Cold-Pressed) และไม่ผ่านการฟอกสีหรือแต่งกลิ่น เพื่อคงประสิทธิภาพของน้ำมันเอาไว้ โดยในปัจจุบันนิยมใช้น้ำมันที่หลากหลาย และน้ำมันแต่ละชนิดก็จะเหมาะสำหรับสภาพผิวที่แตกต่างกันไป เช่น
- น้ำมันโจโจ้บา เหมาะกับผิวมันและผิวแพ้ง่าย
- น้ำมันอัลมอนด์หวาน เหมาะกับผิวแห้งและบอบบาง
- น้ำมันเมล็ดองุ่น มีเนื้อเบา เหมาะกับการใช้งานทุกวัน
Body oil ใช้น้ำมันหอมระเหย (Essential Oil) อย่างระมัดระวัง
น้ำมันหอมระเหย นั้นมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ กลิ่นหอม ซึ่งกลิ่นหอมนั้นสามารถช่วยบำบัดร่างกายและจิตใจได้ ควรเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยในสัดส่วนที่เหมาะสม และเลือกใช้ชนิดที่ผ่านการรับรองว่าใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้ โดยไม่เกิดอันตราย เช่น ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ หรือทีทรี
Body oil เลือกสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง
การเลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติ จะช่วยเพิ่มการบำรุง ฟื้นฟู หรือปกป้องผิวได้ ซึ่งควรเลือกจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ และมีใบรับรองความปลอดภัย เช่น ใบ COA (Certificate of Analysis), ใบรับรองออร์แกนิก, GMP หรือ ISO โดยสารสกัดจากธรรมชาติที่ได้รับความนิยมใน Body Oil เช่น สารสกัดว่านหางจระเข้ วิตามินอี สารสกัดชาเขียว หรือคาโมมายล์
Body oil หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
ควรหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะใน Body Oil ที่ผลิตมาสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เช่น น้ำหอมสังเคราะห์ สีผสมอาหาร พาราเบน หรือซิลิโคน
Body oil ตรวจสอบความสะอาดและความปลอดภัยของส่วนผสมทุกชนิด
ส่วนผสมใน Body Oil ทุกชนิดควรมีความสะอาด และมีความปลอดภัย โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบทั้งคุณภาพ ความบริสุทธิ์ และการปนเปื้อนของเชื้อรา แบคทีเรีย หรือโลหะหนัก เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอันตรายต่อร่างกาย และไม่มีผลกระทบต่อผู้บริโภคในระยะยาว
รวมสารสกัดยอดนิยม Body Oil สำหรับผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย และทุกสภาพผิว
การผลิต Body Oil ให้มีความหลากหลาย และเหมาะกับสภาพผิวถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากสภาพผิวแต่ละประเภทนั้นมีปัญหา และมีความต้องการที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องความชุ่มชื้น ความอ่อนโยน และปัญหาผิวที่ต้องการฟื้นฟู ซึ่งการพัฒนาสูตร Body Oil กับโรงงานรับผลิต Body oil จึงควรใช้สารสกัดและส่วนผสมที่สอดคล้องกับปัญหาผิวเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

Body Oil สูตรสำหรับผิวแห้ง (Dry Skin)
ผิวแห้ง ควรเลือกใช้สารสกัดที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว ช่วยลดอาการผิวแห้ง ลอก เป็นขุย เช่น
- น้ำมันอโวคาโด (Avocado Oil) อุดมไปด้วยกรดไขมันและวิตามินอี บำรุงผิวล้ำลึก
- น้ำมันอัลมอนด์หวาน (Sweet Almond Oil) ลดความหยาบกร้าน และช่วยให้ผิวนุ่มลื่น
- เชียบัตเตอร์ออยล์ (Shea Butter Oil) เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวแห้งเสีย
- น้ำมันเสาวรส (Passiflora Edulis Oil) ให้ความชุ่มชื้นสูง อุดมด้วยวิตามินเอและซี
- วิตามินอี (Vitamin E) ต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมความแข็งแรงให้ผิว
Body Oil สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)
ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้สารสกัดที่มีความอ่อนโยน ช่วยลดการระคายเคือง อย่างสารสกัดจากธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหอมระเหย หรือสารที่ก่อการระคายที่อาจกระตุ้นการแพ้ เช่น
- น้ำมันคาเลนดูล่า (Calendula Oil) ลดรอยแดงและอาการแพ้
- น้ำมันคาเมลเลีย (Camellia Oil) อุดมไปด้วยโอเมก้า 9 และอ่อนโยนต่อผิว
- น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) เพิ่มความชุ่มชื้น สร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
- น้ำมันจากโอ๊ต (Oat Extract) ลดการแพ้ระคายเคือง ช่วยให้ผิวแข็งแรง
- น้ำมันมะรุม (Moringa Oil) อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ลดการระคายเคือง

Body Oil สูตรสำหรับผิวมันหรือผิวผสม (Oily/Combination Skin)
ผิวมันหรือผิวผสม ควรเลือกใช้ Body Oil ที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบไว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ซึ่งอาจทำให้เกิดสิว จึงควรเลือกใช้สารสกัดที่ช่วยควบคุมความมัน และช่วยต้านการอักเสบ เช่น
- น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) ซึมซาบเร็ว ไม่หนักผิว
- น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba Oil) ช่วยควบคุมสมดุลความมันตามธรรมชาติของผิว
- ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil) ลดการอักเสบของผิว และควบคุมแบคทีเรีย
- น้ำมันว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Oil) ให้ความชุ่มชื้น สมานผิว
-
น้ำมันโรสฮิป (Olive Oil) ปรับสมดุลผิว ลดการอุดตัน
Body Oil สูตรสำหรับผิวธรรมดา (Normal Skin)
ผิวธรรมดา ควรเลือกสารสกัดที่ให้ความชุ่มชื้น และการบำรุงแบบสมดุล ไม่ทำให้หนักผิวมากเกินไป และเหมาะสำหรับใช้ได้ทุกวัน หรือใช้ร่วมกับน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยผ่อนคลายได้
- น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- น้ำมันโรสฮิป (Rosehip Oil) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
- สารสกัดโรสแมรี่ (Rosemary Oil) ชะลอการเกิดริ้วรอย สร้างความสดชื่นผ่อนคลาย
- ลาเวนเดอร์ออยล์ (Lavender Oil) ช่วยให้ผ่อนคลายและลดการอักเสบเล็กน้อย
Body oil เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูง และสามารถเติบโตได้ในตลาดความงามได้อย่างยาวนาน การสร้างแบรนด์ Body oil จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจความงาม ที่อยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง สร้างแบรนด์ได้ง่าย ๆ แค่เลือกผลิต Body oil กับ Pure Derima Laboratories โรงงานรับผลิต Body oil สกินแคร์ และเครื่องสำอางแบบครบวงจร ที่ได้รับมาตรฐานและพร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน