พัฒนาสูตรครีม ตามสูตรของลูกค้าเอง สร้างแบรนด์ครีมต้องเลือกโรงงานแบบไหน

อยากมีแบรนด์ครีมของตัวเอง และต้องการสร้างแบรนด์ให้มีความโดดเด่น การพัฒนาสูตรครีม ถือเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยสร้างเอกลักษณ์และภาพจำให้กับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของคุณ ให้มีความแตกต่างจากคู่แข่ง บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จัก พัฒนาสูตรครีม คืออะไร? สร้างแบรนด์ครีมต้องเลือกโรงงานแบบไหน เจาะลึกการสร้างแบรนด์ครีม สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการประสบความสำเร็จต้องรู้

 

 

พัฒนาสูตรครีม คืออะไร?

การพัฒนาสูตรครีม หมายถึง การวิจัยและพัฒนาคุณสมบัติของครีมเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ โดยการพัฒนาสูตรมักจะอ้างอิงจากแนวคิดของแบรนด์ ในการเลือกใช้สารสกัดหลัก เนื้อสัมผัส และกลิ่น ไม่ว่าจะเป็น สูตรให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย กระจ่างใส หรือดูแลปัญหาผิวเฉพาะจุด ที่พัฒนาโดยนักวิจัย นักเคมีเครื่องสำอาง หรือแพทย์ด้านผิวหนัง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตลาดต้องการ

ทั้งนี้ การพัฒนาสูตรครีมไม่ใช่เพียงการรวบรวมสารสกัดต่าง ๆ มาใส่ในเนื้อครีมเท่านั้น แต่เป็นการวิจัยและพัฒนาสูตรครีมอย่างมีหลักการและต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

• ประสิทธิภาพของสารสกัดแต่ละชนิด
• ความปลอดภัยตามมาตรฐาน อย.
• ความเสถียรของสูตรเมื่อใช้ในระยะยาว
• เนื้อสัมผัส กลิ่น สี และความรู้สึกขณะใช้งาน
• ความเข้ากันได้ของส่วนสกัดและส่วนผสมทั้งหมด
• ผลลัพธ์ที่ได้หลังการใช้งาน

โดยทั่วไปโรงงานผลิตครีมแบบ OEM และ ODM จะมีการพัฒนาสูตรครีมโดยทีมนักวิจัยและพัฒนาที่มีประสบการณ์ด้านเวชสำอาง เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการดูแลผิว และสามารถขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

ครีมบำรุงผิว มีกี่ประเภท?

ครีมบำรุงผิว สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยจะแบ่งตามประเภทการใช้งาน และจะแบ่งประเภทตามบริเวณการใช้งาน และยังสามารถจำแนกย่อยตามคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ได้ ดังนี้

ครีมบำรุงผิวหน้า (Facial Creams)

ครีมบำรุงผิวหน้า คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผิวหน้าโดยเฉพาะ โดยเนื้อครีมจะมีลักษณะที่บางเบา ซึมซาบสู่ผิวหนังได้ง่าย และมักจะมีสูตรเฉพาะที่หลากหลาย สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ซึ่งครีมบำรุงผิวหน้า มีหลากหลายสูตร เช่น

• ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เป็นครีมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ พร้อมบำรุงผิวให้แข็งแรง จึงเหมาะสำหรับผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ หรือผู้ที่ต้องการบำรุงผิวให้เนียนนุ่มสุขภาพดี
• ครีมบำรุงผิวลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging Cream)  มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอย พร้อมช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์
• ครีมบำรุงผิวไวท์เทนนิ่ง (Whitening Cream) มีสารสกัดที่ช่วยดูแลผิวให้กระจ่างใส ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ พร้อมปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส และสีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น 
• ครีมกันแดด (Sunscreen Cream) เป็นครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV โดยค่า SPF และ PA ในครีมกันแดดจะบ่งบอกถึงระดับในการปกป้องผิวจากรังสี UV ทั้งยังมีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
• ครีมลดสิว (Acne Cream) เป็นครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบของผิว ควบคุมความมัน พร้อมป้องกันการเกิดสิว
• ครีมบำรุงผิวรอบดวงตา (Eye Cream)  เป็นครีมบำรุงผิวเฉพาะจุดที่มีความอ่อนโยน โดยมีส่วนช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตา ช่วยลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้บริเวณรอบดวงตา ทำให้ผิวรอบดวงตาดูสดชื่น และเต่งตึงขึ้น

ครีมบำรุงผิวกาย (Body Creams)

ครีมบำรุงผิวกาย คือ ครีมบำรุงผิวที่ช่วยดูแลผิวกายโดยเฉพาะ เนื่องจากผิวกายมีความหนาและมีต่อมไขมันน้อยกว่าผิวหน้า ลักษณะของครีมบำรุงผิวจึงมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่า เพื่อช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ และช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายสูตร เช่น

• โลชั่นบำรุงผิว (Body Lotion) เป็นครีมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวกาย ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง
• ครีมบำรุงผิวขาว (Whitening Body Cream) เป็นครีมที่ช่วยบำรุงผิวที่ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส และช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ
• ครีมกันแดดสำหรับผิวกาย (Body Sunscreen) เป็นครีมบำรุงผิวที่ผสมสารกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่อาจทำให้ผิวแห้งเสีย และเกิดริ้วรอยได้
• ครีมบำรุงผิวลดรอยแตกลาย (Stretch Mark Cream) เป็นครีมที่สามารถช่วยลดรอยแตกลาย และมีสารสกัดที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
• ครีมบำรุงมือและเท้า (Hand & Foot Cream) เป็นครีมบำรุงผิวสูตรเฉพาะสำหรับบริเวณมือและเท้า ซึ่งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว

 

 

ประเภทของสูตรครีมที่สามารถพัฒนาได้

การพัฒนาสูตรครีม สามารถออกแบบได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ การใช้งาน รวมถึงความต้องการของตลาด โดยครีมที่สามารถพัฒนาสูตรครีมได้มีหลายประเภท เช่น

• ครีมบำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยลดริ้วรอย ลดความมัน หรือลดปัญหาการเกิดสิว หรือช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใส
• ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ผสานสารป้องกันรังสี UVA/UVB  โดยครีมกันแดดในปัจจุบันมีหลายประเภท คือ Physical, Chemical หรือ Hybrid นอกจากนี้ยังมีหลายสูตรให้ได้เลือก ไม่ว่าจะเป็น สูตรเนื้อแมตต์ สูตรเนื้อบางเบาไม่เหนอะหนะ รวมถึงสูตรผสมรองพื้น
• ครีมบำรุงรอบดวงตา ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงบริเวณรอบ ๆ ดวงตาโดยเฉพาะ ช่วยลดถุงใต้ตา ลดรอยคล้ำ และกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ผิว ให้ใต้ตาดูกระจ่างใส เรียบเนียน
• ครีมทาตัว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่มีหลากหลายสูตรให้ได้เลือก  เช่น สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นยาวนาน สูตรผิวกระจ่างใส สูตรลดรอยแตกลาย
• ครีมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย สามารถพัฒนาสูตรครีมให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ ไม่ว่าจะเป็น สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย สูตรสำหรับผิวที่เป็นสิว สูตรสำหรับผิวแห้งกร้าน หรือสูตรสำหรับผู้ที่มีฝ้า กระ จุดด่างดำ

การพัฒนาสูตรครีมสามารถออกแบบมาให้มีความแตกต่างกันได้ ทั้งในเรื่องเนื้อสัมผัส คุณสมบัติที่โดดเด่น รวมถึงเรื่องกลิ่น เช่น ครีมเนื้อเจล เซรั่ม ครีมเข้มข้น หรือโลชั่น ที่สามารถช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น

 

พัฒนาสูตรครีมแบบ OEM และ ODM แตกต่างกันอย่างไร

การเริ่มต้นแบรนด์ครีมสิ่งแรกที่เจ้าของแบรนด์ควรพิจารณา คือ การเลือกพัฒนาสูตรครีมกับโรงงานรับผลิตครีมแบบ OEM หรือ ODM? เนื่องจากโรงงานรับผลิตครีมทั้ง 2 รูปแบบ มีกระบวนการผลิต ความยืดหยุ่น และการควบคุมสูตร รวมถึงต้นทุนการผลิตที่แตกต่างกัน 

• การพัฒนาสูตรครีมกับโรงงานรับผลิตครีมแบบ OEM 

โรงงานรับผลิตครีมแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) คือ โรงงานรับผลิตครีมตามสูตรและบรรจุเท่านั้น โดยทางลูกค้าที่มีสูตรอยู่แล้ว หรือมีแนวทางของผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว และทำการนำสูตรดังกล่าวไปให้โรงงานรับผลิตครีม โดยโรงงานจะมีหน้าที่เพียงผลิตครีมตามสูตร และอาจสามารถปรับแต่งสูตรได้เล็กน้อย เช่น เนื้อสัมผัส กลิ่น สี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ได้ เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีทีมวิจัยของตนเอง หรือมีสูตรอยู่แล้ว

• การพัฒนาสูตรครีมกับโรงงานรับผลิตครีมแบบ ODM 

โรงงานรับผลิตครีมแบบ ODM (Original Design Manufacturer) คือ โรงงานรับผลิตครีมตามสูตรที่ดำเนินการแบบครบวงจร โดยโรงงานรับผลิตครีมจะมีทีมวิจัยและพัฒนาเป็นของตัวเอง และทำการคิดค้น พัฒนาสูตรครีม และออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้ทั้งหมดตามความต้องการของลูกค้า และช่วยสร้างความโดดเด่นให้แบรนด์แตกต่างจากท้องตลาดได้ เช่น ครีมบำรุงผิวสูตรให้ความชุ่มชื้น ครีมลดริ้วรอย หรือสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ และยังไม่มีสูตรผลิตภัณฑ์ 

 

 

พัฒนาสูตรครีมให้ได้คุณภาพ ควรเลือกโรงงานรับผลิตครีมแบบไหน ?

การเลือกโรงงานรับผลิตครีม ที่สามารถพัฒนาสูตรครีมได้ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะในเจ้าของแบรนด์มือใหม่ เพราะโรงงานรับผลิตครีมที่ดีและมีคุณภาพ จะสามารถพัฒนาสูตรครีมให้ตรงกับความต้องการของเจ้าของแบรนด์ และตอบโจทย์ปัญหาของผู้บริโภคได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกโรงงานรับผลิตครีมควรพิจารณาคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

• มีทีมวิจัยและพัฒนาสูตร (R&D) เป็นของตัวเอง

โรงงานรับผลิตครีมที่สามารถพัฒนาสูตรครีมโดยทีมวิจัยและพัฒนาสูตร (R&D) เป็นของตัวเอง จะช่วยทำให้สามารถพัฒนาสูตรครีมที่คุณภาพและตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งทีมวิจัยและพัฒนาจะมีหน้าที่ในการคิดค้น ปรับแต่งสูตรครีม ไม่ว่าจะเป็น การเลือกสารสกัดหลัก ส่วนผสมอื่น ๆ เนื้อสัมผัส กลิ่น และสี เพื่อพัฒนาสูตรให้ตอบโจทย์กับปัญหาผิวต่าง ๆ  เช่น ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง หรือปัญหาสิว รวมถึงมีการทดสอบคุณภาพของสูตรในด้านประสิทธิภาพ ความเสถียร และความเข้ากันได้ของส่วนผสม ทำให้สามารถสร้างจุดขายและความโดดเด่นของแบรนด์ได้ดีมากขึ้น

• ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย

โรงงานพัฒนาสูตรครีมที่ดีควรมีห้องแล็บสำหรับพัฒนาสูตรที่ปลอดภัย ปลอดเชื้อ และมีเทคโนโลยี เครื่องมือที่ทันสมัย ที่สามารถใช้ในกระบวนการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลิตได้อย่างแม่นยำและมีคุณภาพ ทำให้สามารถผลิตซ้ำได้จริงในปริมาณมาก

• ใช้สารสกัดคุณภาพ และมีเอกสารรับรอง

โรงงานพัฒนาสูตรครีมที่ดีควรคัดเลือกวัตถุดิบและสารสกัดที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบที่มาของสารสกัดแต่ละชนิดได้ และมีใบ Certificate of Analysis (COA) รองรับสารสกัดทุกชนิด เพื่อความปลอดภัย และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ 

• รองรับการจดแจ้ง อย. และผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐาน

โรงงานพัฒนาสูตรครีมที่ได้มาตรฐาน ควรได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น มาตรฐาน GMP, ISO, หรือผ่านการตรวจสอบจาก อย. แล้วเรียบร้อย และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวแบรนด์ และยังช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถวางจำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมาย 

• ให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

โรงงานพัฒนาสูตรครีมที่ดีและได้มาตรฐาน จะสามารถให้คำปรึกษาได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การสร้างแนวทางหรือเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และแบรนด์ การเลือกสารสกัดที่สำคัญ การตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ การยื่นขอจดแจ้งอย. และการวางแผนการตลาดขั้นต้น เพื่อช่วยลดความยุ่งยากให้กับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ ทำให้การเริ่มสร้างแบรนด์เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น

• โรงงานมีการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด

โรงงานพัฒนาสูตรครีมที่มีมาตรฐานควรมีการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดและมีขั้นตอนที่ชัดเจน ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การผลิต ไปจนถึงการบรรจุ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้มีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีมาตรฐานสม่ำเสมอทุกล็อตการผลิต

 

พัฒนาสูตรครีมกับ Pure Derima Laboratories ช่วยสร้างแบรนด์แบบครบวงจร

Pure Derima Laboratories เป็นโรงงานรับผลิตครีม สกินแคร์ และเครื่องสำอางทุกประเภท พร้อมให้บริการแบบครบวงจร One Stop Service ที่ดูแลตั้งแต่การพัฒนาสูตรครีม การผลิต การยื่นจดแจ้งอย. การบรรจุ ตลอดจนการออกแบบฉลากสินค้าและโลโก้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นธุรกิจ ให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น 

โรงงานรับผลิตครีม Pure Derima Laboratories เราพร้อมดูแลครอบคลุมทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่การวิจัยพัฒนาสูตรครีม คัดเลือกสารสกัด การผลิตที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนถึงการออกแบบฉลากสินค้า รวมถึงบริการขึ้นทะเบียนเครื่องสำอาง (อย.) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของคุณนั้นสามารถจัดจำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมาย

โรงงานพัฒนาสูตรครีม Pure Derima Laboratories เราดำเนินธุรกิจในรูปแบบ OEM ที่ได้รับการรองรับมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มาตรฐาน GMP ASEAN, ISO 9001, ISO 22716 และ HALAL ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตที่ยอมรับในระดับสากล ที่สามารถรองรับการผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอางทุกประเภท และเรายังมุ่งเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อให้แบรนด์ของคุณสามารถเติบโตในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

 

พัฒนาสูตรครีมกับ Pure Derima Laboratories มีมาตรฐานอะไรบ้าง?

การเลือกโรงงานรับผลิตครีมที่มีมาตรฐานจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทำให้แบรนด์สามารถเติบโตในตลาดได้ในระยะยาว Pure Derima Laboratories เราเป็นโรงงานรับผลิตครีมทุกประเภท ที่มีบริการพัฒนาสูตรครีม และกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ได้รับการรองรับมาตรฐานในการผลิตระดับสากล ดังนี้

• ISO 22716  มาตรฐานแนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับการผลิตเครื่องสำอาง ควบคุมกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวด ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้นั้นมีคุณภาพสูง และยังปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากที่สุด
• ISO 9001:2015 มาตรฐานนี้เป็นระบบการบริหารคุณภาพสำหรับทุกอุตสาหกรรมการผลิต มุ่งเน้นการดำเนินงานที่เป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานโรงงานรับผลิตครีมให้สูงขึ้น
• ASEAN Cosmetic GMP (ASEAN Cosmetic Good Manufacturing Practice) แนวทางปฏิบัติที่กำหนดขึ้นสำหรับโรงงานรับผลิตครีมและเครื่องสำอางในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ และสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ให้กับประเทศในกลุ่มอาเซียนได้
• มาตรฐาน Green Industry มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต ควบคุมของเสียและมลพิษให้น้อยที่สุด จึงช่วยสร้างความมั่นใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวแบรนด์ว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
• เครื่องหมาย Halal ข้อกำหนดสำคัญที่รับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นผลิตตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่มีส่วนผสมต้องห้ามตามกฎของศาสนา มีความสะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐาน ทั้งยังสามารถขยายตลาดไปกลุ่มลูกค้าชาวมุสลิมได้

 

 

10 ขั้นตอนการพัฒนาสูตรครีมกับ Pure Derima Laboratories

การสร้างแบรนด์ครีมไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณต้องการพัฒนาสูตรครีม สร้างแบรนด์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โรงงานรับผลิตครีม Pure Derima Laboratories พร้อมให้บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ตั้งแต่การพัฒนาสูตรครีม ไปจนถึงการขึ้นทะเบียนอย. เพื่อให้การสร้างแบรนด์ดำเนินไปได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดำเนินการได้ง่าย ๆ ภายใน 10 ขั้นตอน ดังนี้

1. เลือกผลิตภัณฑ์สูตรผลิตครีมมาตรฐาน หรือสูตรพัฒนาของตัวเอง
2. ทดลองสูตรผลิตครีมจาก Catalog หรือสูตรพัฒนา และสรุปผลต่อผู้ขาย
3. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์
4. โรงงานรับผลิตครีมจัดส่งใบเสนอราคาให้กับลูกค้า
5. ลูกค้าชำระเงินมัดจำ 50% เพื่อยืนยันการผลิตครีม
6. โรงงานรับผลิตครีมขอยื่นจดแจ้งเลขทะเบียน อย. ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า
7. ออกแบบโลโก้และฉลาก พร้อมให้โรงงานรับผลิตครีมตรวจสอบความถูกต้อง
8. เริ่มกระบวนการผลิตภายใต้มาตรฐานสากลของโรงงานรับผลิตครีม
9. ลูกค้าชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50% เมื่อผลิตครีมเสร็จสิ้น
10. โรงงานรับผลิตครีมจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า

 

Pure Derima Laboratories โรงงานรับผลิตครีม บริการวิจัยพัฒนาสูตรครีม

Pure Derima Laboratories คือ โรงงานรับผลิตครีมและเครื่องสำอางแบบครบวงจร พร้อมบริการวิจัยและพัฒนาสูตรครีม จากทีม R&D ที่มากประสบการณ์ ที่จะช่วยออกแบบพัฒนาสูตรครีมให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และเข้ากับแบรนด์ให้ได้มากที่สุด โดยสามารถเลือกรูปแบบการพัฒนาสูตรครีมได้หลากหลายตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์

รูปแบบการพัฒนาสูตรผลิตครีมของ Pure Derima Laboratories

• พัฒนาสูตรครีมแบบ Self-Invented Formula

เป็นการพัฒนาสูตรครีมตามมาตรฐานของโรงงาน ที่ผ่านการวิจัยและตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว โดยลูกค้าสามารถเลือกสูตรมาตรฐานโรงงาน หรือปรับแต่งสูตรให้เหมาะสมกับแบรนด์ได้ เช่น การปรับแต่งกลิ่น สี เนื้อสัมผัส ซึ่งการพัฒนาสูตรครีมแบบนี้จะช่วยควบคุมต้นทุนการผลิตสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ได้

• พัฒนาสูตรครีมแบบ Benchmark Formula

เป็นการพัฒนาสูตรครีมโดยอ้างอิงจากผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันภายในตลาด หรือการอ้างอิงสูตรจากแบรนด์ที่น่าสนใจและที่ลูกค้าชื่นชอบ จากนั้นทางทีมวิจัยและพัฒนาจะทำการปรับแต่งสูตรเพื่อให้เข้ากับแบรนด์ และให้ได้คุณภาพที่ใกล้เคียงกัน เหมาะสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่มีสูตรครีมที่ต้องการพัฒนา หรือต้องการตีตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทนั้น ๆ

• พัฒนาสูตรครีมแบบ Private Formula Development

เป็นการพัฒนาสูตรครีมโดยใช้สูตรดั้งเดิมของผลิตภัณฑ์เดิม แล้วทำการปรับปรุงข้อบกพร่อง หรือพัฒนาสูตรให้ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น การเพิ่มสารสกัดใหม่ การปรับเนื้อสัมผัสแต่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ โดยวิธีพัฒนาสูตรครีมนี้เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีสูตรเฉพาะแบรนด์อยู่แล้ว และต้องการพัฒนาปรับสูตรใหม่ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หรือตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น

• พัฒนาสูตรครีมแบบ Innovative Formula

เป็นการพัฒนาสูตรครีมโดยการนำเทคโนโลยี หรือสารสกัดชนิดใหม่ ๆ มาใช้ในการพัฒนาปรับแต่งสูตรครีม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ ทั้งยังสร้างความแปลกใหม่ในตลาดได้ จึงเหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการผลิตครีมระดับพรีเมียม หรือต้องการผลิตครีมที่มีความใหม่ในตลาด

 

 

สารสกัดยอดนิยมที่ใช้ในการพัฒนาสูตรครีม

การพัฒนาสูตรครีม สารสกัดและส่วนผสมในครีม ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากสารสกัดแต่ละชนิดนั้นก็จะมีคุณสมบัติ ประสิทธิภาพ ที่แตกต่างกัน การพัฒนาสูตรครีมจึงต้องเลือกใช้สารสกัดให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์ เพื่อความปลอดภัยและสามารถแก้ปัญหาของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้สารสกัดบางชนิดยังช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์อีกด้วย ซึ่งสารสกัดและส่วนผสมที่นิยมใช้ในการพัฒนาครีม เช่น

สารสกัดให้ความชุ่มชื้น

การพัฒนาสูตรครีมบำรุงผิวที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน สารสกัดให้ความชุ่มชื้น จะช่วยกักเก็บและเติมน้ำให้ผิว พร้อมช่วยรักษาความสมดุลของน้ำในชั้นผิว ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวนุ่มเด้งขึ้น เช่น

• Hyaluronic Acid (HA): สารสกัดยอดนิยมที่ช่วยกักเก็บน้ำให้ผิวอิ่มน้ำและดูชุ่มชื้นขึ้น
• Glycerin: สารกักเก็บความชุ่มชื้นที่เหมาะกับทุกสภาพผิว
• Panthenol (Vitamin B5): ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคือง พร้อมบำรุงผิวอย่างล้ำลึก

 

สารสกัดต้านริ้วรอย

การพัฒนาสูตรครีมบำรุงผิวที่เน้นการชะลอวัย การเลือกใช้สารสกัดต้านริ้วรอย จะช่วยชะลอความอ่อนเยาว์ ลดเลือนเส้นริ้วรอยตีนกา และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ผิวดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น เช่น

• Peptides: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว
• Retinol : กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว พร้อมช่วยลดริ้วรอยร่องเล็ก
• Coenzyme Q10: สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
• Astaxanthin : สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่มีความเข้มข้นสูง ช่วยชะลอความอ่อนเยาว์ของผิว

สารสกัดบำรุงผิวให้กระจ่างใส

การพัฒนาสูตรครีมบำรุงผิวกระจ่างใส การเลือกใช้สารสกัดที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว จะสามารถช่วยลดความหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ลดเลือนฝ้า กระ หรือรอยดำจากสิว ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสขึ้น เช่น

• Vitamin C : สารสกัดยอดนิยม ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น
• Niacinamide (Vitamin B3): ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเสริมเกราะป้องกันผิว
• Alpha Arbutin: ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
• Licorice Extract: ช่วยลดการผลิตเมลานิน ลดเลือนฝ้า กระ ให้ดูจางลง

สารสกัดลดสิวและการอักเสบ

การพัฒนาสูตรครีมสำหรับผิวเป็นสิว การเลือกใช้สารสกัดลดสิวและลดการอักเสบ จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย พร้อมช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และปลอบประโลมผิวที่อักเสบ เหมาะสำหรับผิวมันหรือผิวที่เป็นสิวง่าย เช่น 

• Salicylic Acid (BHA): ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และลดการอุดตันของรูขุมขน
• Tea Tree Oil: ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว พร้อมช่วยลดการอักเสบของผิว
• Zinc PCA: ช่วยควบคุมความมันบนผิว และลดการอักเสบ 
• Centella Asiatica (ใบบัวบก): ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และสมานผิวจากรอยสิว

สารสกัดจากธรรมชาติ

การพัฒนาสูตรครีมผิวอ่อนโยนแพ้ง่าย การเลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติ หรือสารสกัดออร์แกนิก สามารถช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง พร้อมฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น และสารสกัดจากธรรมชาติยังเป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น 

• Aloe Vera (ว่านหางจระเข้): ช่วยปลอบประโลมผิว เติมน้ำให้ผิว และลดการระคายเคือง
• Chamomile Extract: ช่วยลดอาการแพ้ ผื่นแดง และเสริมการฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
• Cucumber Extract: ช่วยกระชับรูขุมขน กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวเย็นสดชื่น 
• Rose Water / Rose Extract: ช่วยปรับสมดุลผิว เสริมความแข็งแรงให้ผิว และให้กลิ่นที่ผ่อนคลาย

การพัฒนาสูตรครีมให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์ จำเป็นต้องอาศัยหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ทีมวิจัยและพัฒนา การคัดเลือกสารสกัด รูปแบบการพัฒนาสูตรครีม รวมถึงการผลิตที่ปลอดภัย ดังนั้น การเลือกโรงงานรับผลิตครีมที่ได้มาตรฐานและพร้อมให้บริการแบบครบวงจรอย่าง Pure Derima Laboratories เรามีทีมวิจัยและพัฒนาที่จะช่วยพัฒนาสูตรครีม ให้คุณได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ ทั้งยังช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นจากแบรนด์อื่น ๆ