อุตสาหกรรมสีเขียว มาตรฐานสำคัญต่อการเลือกโรงงาน ในการสร้างแบรนด์ยุคใหม่

อุตสาหกรรมสีเขียว

อุตสาหกรรมสีเขียว มาตรฐานสำคัญต่อการเลือกโรงงาน ในการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ 

ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น แนวโน้มการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จึงไม่ได้พิจารณาเพียงแค่คุณภาพหรือราคาเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม” ของแบรนด์อีกด้วย ทำให้มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยสะท้อนถึงจริยธรรมและความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมของโรงงาน นอกจากนี้มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวยังมีความสำคัญต่อแบรนด์และโรงงานในอีกหลายแง่มุม ในบทความนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจ เหตุผลที่โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว กลายเป็นตัวเลือกสำคัญของแบรนด์ยุคใหม่ พร้อมเจาะลึกถึงประโยชน์ในแง่มุมต่าง ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

 

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว คืออะไร ?
มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว คืออะไร ?

 

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว คืออะไร ?

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry Standard) เป็นแนวทางและเกณฑ์ที่ภาครัฐกำหนดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สะอาดและปลอดภัย ลดการใช้สารเคมีหรือวัตถุดิบที่ก่อให้เกิดมลพิษ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างเหมาะสม และการลดของเสียในทุกขั้นตอนการผลิต รวมถึงสนับสนุนให้มีการมีส่วนร่วมของพนักงานในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับองค์กรสู่การเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

 

เป้าหมายของอุตสาหกรรมสีเขียว

อุตสาหกรรมสีเขียวไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในระยะยาว และเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการผลิตกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยอุตสาหกรรมสีเขียวมีเป้าหมายหลักในการดำเนินงาน ดังนี้

 

  • อุตสาหกรรมสีเขียวมีเป้าหมายในการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ 
  • อุตสาหกรรมสีเขียวมีเป้าหมายในการลดของเสีย มลพิษ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  นำของเสียกลับมาใช้ใหม่ และการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
  • อุตสาหกรรมสีเขียวมีเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ปรับเปลี่ยนระบบการผลิตให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
  • อุตสาหกรรมสีเขียวมีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในองค์กร ผ่านการจัดอบรมให้พนักงาน การรณรงค์กิจกรรมสีเขียวในหน่วยงาน และการรณรงค์กิจกรรมสีเขียวในหน่วยงาน

 

ความสำคัญของอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงานสกินแคร์และเครื่องสำอาง

อุตสาหกรรมสกินแคร์และเครื่องสำอางเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรจำนวนมากโดยเฉพาะการใช้สารเคมีที่หลากหลาย ส่งผลให้เกิดเป็นขยะจำนวนมากในระบบ ซึ่งการผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอางหากไม่มีการจัดการที่เหมาะสมมักส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมตามไปด้วย การนำนโยบายอุตสาหกรรมสีเขียวมาใช้จึงเป็นแนวทางที่สำคัญที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

แนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงานสกินแคร์และเครื่องสำอาง

  • แนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมสีเขียวคือเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและแหล่งที่ยั่งยืน
  • แนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมสีเขียวคือลดการใช้สารเคมีอันตราย และเลือกใช้ส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผิวหนัง
  • แนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมสีเขียวคือพัฒนากระบวนการผลิตสะอาดหรือลดการปล่อยคาร์บอน
  • แนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมสีเขียวคือใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือวัสดุย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
  • แนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมสีเขียวคือการจัดการของเสียและมลพิษ ด้วยระบบบำบัดน้ำเสียและการกำจัดสารเคมีที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
  • แนวทางปฏิบัติอุตสาหกรรมสีเขียวคือสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน

 

ระดับของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว
ระดับของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว

 

ระดับของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวที่กำหนดโดยกระทรวงอุตสาหกรรมในประเทศไทย แบ่งออกได้เป็น 5 ระดับซึ่งแต่ละระดับจะมีเกณฑ์และข้อกำหนดที่ชัดเจน โดยมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว ถูกแบ่งออกได้ ดังนี้

 

1.มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 1 แสดงความมุ่งมั่น (Green Commitment)

ในมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 1 โรงงานหรือสถานประกอบการแสดงเจตจำนงและความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นจากการประกาศนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างเป็นทางการ  และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจเบื้องต้นในหมู่พนักงาน แต่ในมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 1 ยังไม่มีระบบจัดการสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรมหรือได้รับการรับรองมาตรฐาน 

 

2.มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 2 ปฏิบัติการเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Activities)

ในมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 2 โรงงานเริ่มดำเนินการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการวางแผนและลงมือปฏิบัติในกิจกรรมต่าง ๆ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมภายในองค์กรอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังเริ่มมีการเก็บข้อมูลและติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงและวางแนวทางการพัฒนาต่อไป

 

3.มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 การรักษาระบบ (Green System)

ในมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 โรงงานจะมีการจัดทำระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่เป็นมาตรฐาน แสดงให้เห็นถึงการควบคุม ดูแล และประเมินผลได้อย่างชัดเจน โดยในมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 จะมีการจัดการที่ครอบคลุมถึงการระบุความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม การควบคุมกระบวนการผลิตให้เกิดมลพิษน้อยที่สุด การวางแผนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม และการจัดทำแผนตรวจสอบภายในอย่างสม่ำเสมอ 

 

4.มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 เครือข่ายสีเขียว (Green Culture)

ในมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 ไม่เพียงแต่รักษาระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในให้มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังมีการขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องและการส่งเสริมกิจกรรมสีเขียวในชุมชน  เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนในระดับเครือข่ายและสังคมโดยรวม

 

5.มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 5 ความเป็นเลิศ (Green Network)

ในมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 5 โรงงานแสดงถึงความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสีเขียวระดับประเทศ เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน สนับสนุนงานวิจัย หรือให้ความรู้กับโรงงานอื่น

 

การขยับขึ้นแต่ระดับของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านระบบ แนวคิด และการมีส่วนร่วม ซึ่งนอกจากจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือและการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจอีกด้วย

 

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว  Lv.2 คืออะไร ?

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 (Green Industry Standard Lv.2) คือระดับที่แสดงถึงการเริ่มต้นดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งเน้นการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

 

จุดเด่นของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2
จุดเด่นของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2

 

จุดเด่นของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว  Lv.2

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 (Green Industry Standard Lv.2) มีจุดเด่นคือการลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งโรงงานมีกระบวนการดำเนินงาน ผ่านการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกระดับ การวางระบบ และการกำกับติดตามผล ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญในการวางรากฐานสู่ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยจุดเด่นของมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีดังนี้

 

  • มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีจุดเด่นที่มีการจัดตั้งคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีโครงสร้างที่รองรับการขับเคลื่อนนโยบายสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง มีกลไกหลักในการวางแผน ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร

  • มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีจุดเด่นที่มีการเริ่มดำเนินโครงการ/กิจกรรมเชิงสิ่งแวดล้อม

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 แตกต่างจากระดับเริ่มต้น เพราะเป็นก้าวแรกสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งองค์กรและสิ่งแวดล้อมโดยรวม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแนวนโยบายไปสู่การปฏิบัติจริง

  • มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีจุดเด่นที่มีการฝึกอบรมให้ความรู้กับพนักงาน

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่พนักงาน ทำให้มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีผลในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมภายในองค์กรอย่างแท้จริง

  • มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีจุดเด่นที่เริ่มมีระบบติดตามและรายงานผลกิจกรรมสิ่งแวดล้อม

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 โรงงานจะเริ่มพัฒนาระบบในการติดตามและรายงานผลการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งถือเป็นการยกระดับจากแนวนโยบายสู่การบริหารจัดการที่สามารถตรวจสอบและวัดผลได้

  • มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีจุดเด่นที่ช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนพฤติกรรมในองค์กร

มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 มีแนวทางการปฏิบัติที่เป็นระบบและต่อเนื่อง ที่เกี่ยวกับนโยบายสิ่งแวดล้อมกับการปฏิบัติจริงของบุคลากรในแต่ละระดับ จึงช่วยส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพนักงานผ่านกระบวนการเรียนรู้ การมีส่วนร่วม และแรงจูงใจในเชิงบวก ซึ่งทำให้เกิดวัฒนธรรมสีเขียวที่ยั่งยืนในองค์กร

 

การที่โรงงานได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 2 ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าโรงงานให้ความใส่ใจในการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและเริ่มมีการลงมือปฏิบัติจริง

 

Pure Derima Laboratories โรงงานที่ได้รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2
Pure Derima Laboratories โรงงานที่ได้รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2

Pure Derima Laboratories โรงงานที่ได้รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2 

Pure Derima Laboratories เป็นโรงงานรับผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอางที่มีความโดดเด่นในด้านมาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัย ใส่ใจในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบ การควบคุมคุณภาพ ไปจนถึงระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพในระดับสากล 

 

Pure Derima Laboratories จึงได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 2 (Green Industry Level 2) จากกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นระดับที่มีการดำเนินการและจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ มีการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและมาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต อีกทั้งยังมีการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

จุดแข็งของ Pure Derima Laboratories ในด้านอุตสาหกรรมสีเขียว

Pure Derima Laboratories เป็นโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 2 แสดงให้เห็นว่าเรามีแนวคิดและการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ในการขับเคลื่อนองค์กรให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการมีส่วนร่วมของบุคลากรในทุกระดับ เพื่อมุ่งสร้างระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อโลกและยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมความงามยุคใหม่ได้ โดยจุดแข็งของ Pure Derima Laboratories ในด้านอุตสาหกรรมสีเขียว มีหลัก ๆ ดังนี้

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวดเพื่อลดกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีการควบคุมสภาพแวดล้อมในสายการผลิต ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพก่อนออกสู่ตลาดจริง ทุกกระบวนการล้วนผ่านการตรวจประเมินและรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีทีม R&D ที่เชี่ยวชาญในการคิดสูตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีทีมวิจัยและพัฒนาที่มากด้วยประสบการณ์และความชำนาญ ในการคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ความงามที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด พร้อมทั้งเลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติหรือแหล่งที่มีความยั่งยืนสูง ลดการใช้สารที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและระบบนิเวศ

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการควบคุมกระบวนการผลิต โดยเน้นทั้งประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีมาตรการสิ่งแวดล้อมเชิงรุก

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีแนวทางการคัดแยกและบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ พร้อมกับส่งเสริมการสร้างระบบผลิตที่เป็นมิตรต่อโลกมากยิ่งขึ้น

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีส่วนร่วมของพนักงานในการรักษาสิ่งแวดล้อม

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories ส่งเสริมให้พนักงานมีบทบาทในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมรณรงค์ภายใน เพื่อนำมาพัฒนาแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

 

4 เหตุผลที่ควรเลือกผลิตกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2 Pure Derima Laboratories
4 เหตุผลที่ควรเลือกผลิตกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2 Pure Derima Laboratories

 

4 เหตุผลที่ควรเลือกผลิตกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2 Pure Derima Laboratories

การเลือกผลิตผลิตภัณฑ์กับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 2 ถือเป็นการสนับสนุนแนวทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นการลงทุนในคุณภาพ ความยั่งยืนในระยะยาว โดยเหตุผลที่ควรเลือกผลิตผลิตภัณฑ์กับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima มีดังนี้

 

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดี

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีระบบการผลิตที่ปลอดภัยควบคู่กับการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบ ให้ความเชื่อมั่นมากขึ้นกับแบรนด์ที่ผลิตผลิตภัณฑ์กับโรงงานที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น 

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories ช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์แตกต่างและสื่อสารจุดขายอย่างชัดเจน

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ในตลาดได้ ด้วยการผลิตที่ให้ความสำคัญทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและแตกต่างในตลาดได้

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories ช่วยตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories ได้รับการรับรองเป็นโรงงานสีเขียวระดับที่ 2 พร้อมระบบการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐาน GMP และ ISO ทำให้แบรนด์ที่เลือกผลิตกับ Pure Derima มีความได้เปรียบในการขยายตลาดต่างประเทศที่มีข้อกำหนดเข้มงวด

  • โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีคุณภาพการผลิตและความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories มีระบบการผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากลภายใต้ระบบ ISO และ GMP อย่างเคร่งครัดที่เน้นความปลอดภัย ลดการใช้ทรัพยากร และควบคุมของเสียให้อยู่ในระดับที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

การตัดสินใจเลือกผลิตผลิตภัณฑ์กับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories จึงเป็นมากกว่าการเลือกโรงงานรับจ้างผลิต แต่ยังเป็นพันธมิตรที่พร้อมเติบโตเคียงข้างกับแบรนด์อย่างยั่งยืน

 

ข้อเสียเปรียบในการผลิตกับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2

ในยุคที่ผู้บริโภคและตลาดให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน การผลิตกับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว อาจส่งผลกระทบในหลายด้าน ดังนี้

  • การผลิตกับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว เสียโอกาสในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและจริยธรรมของแบรนด์มากยิ่งขึ้น การเลือกผู้ผลิตที่ไม่มีการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวอาจทำให้เสียภาพลักษณ์และโอกาสทางการตลาดของแบรนด์ในตลาดกลุ่มนี้ได้

  • การผลิตกับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว อาจมีความเสี่ยงทางกฎหมายและข้อบังคับ

การผลิตผลิตภัณฑ์กับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว อาจส่งผลให้สินค้าถูกปฏิเสธการนำเข้า หรือแบรนด์อาจเผชิญกับบทลงโทษทางกฎหมาย นำไปสู่ความเสี่ยงทางกฎหมายและข้อบังคับในบางประเทศหรือพื้นที่ที่มีกฎเกณฑ์สิ่งแวดล้อมเข้มงวดได้   

  • การผลิตกับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของตลาดต่างประเทศ

การผลิตผลิตภัณฑ์กับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว มักเป็นการผลิตที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางการผลิตที่ยั่งยืน อาจทำให้สินค้าไม่ผ่านเกณฑ์การนำเข้าในตลาดต่างประเทศและถูกปฏิเสธการนำเข้าได้ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎเกณฑ์เข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อม 

  • การผลิตกับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว ขาดระบบสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการเติบโตของแบรนด์ในระยะยาว

การผลิตผลิตภัณฑ์กับโรงงานที่ไม่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว มักขาดแนวคิดและระบบที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้โรงงานไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาแบรนด์ที่ใส่ใจต่อโลกได้ 

 

วิธีตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงานสกินแคร์และเครื่องสำอาง

การตรวจสอบโรงงานผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอางที่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ถือเป็นขั้นตอนสำคัญของการสร้างแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการตรวจสอบโรงงานผลิตสกินแคร์ที่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว สามารถตรวจสอบได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

 

  • ตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงาน ด้วยการสอบถามข้อมูลโดยตรงจากผู้ผลิต

การตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงานผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอาง  สามารถสอบถามทางข้อมูลโดยตรงจากผู้ผลิตได้เลยเกี่ยวกับมาตรฐานต่าง ๆ รวมถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวด้วย โดยสามารถขอเอกสารรับรองที่โรงงานได้รับ โล่ ต่างๆ

  • ตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงาน ด้วยการขอดูใบรับรองจากโรงงาน

โรงงานผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว(Green Industry) จะต้องมีเอกสารใบรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวยืนยันที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบโรงงานจึงสามารถตรวจสอบจากการขอดูใบรับรองได้

  • ตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงาน ด้วยการตรวจสอบกับเว็บไซต์กระทรวงอุตสาหกรรม

การตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงานผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอาง  ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบรายชื่อโรงงานผ่านเว็บไซต์กระทรวงอุตสาหกรรมได้เลย โดยให้ค้นหาหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับ “โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว” หรือ “Green Industry”

  • ตรวจสอบมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวในโรงงาน ด้วยการตรวจสอบระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมของโรงงาน

โรงงานผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว จะมีแนวทางการจัดการของเสีย ระบบบำบัดน้ำ การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือระบบลดการปล่อยมลพิษที่ชัดเจน ตรวจสอบได้จากเอกสารเสนอการผลิตหรือในขั้นตอนเยี่ยมชมโรงงาน

 

ข้อแตกต่างในการผลิตกับโรงงานปกติและโรงงานที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว

โรงงานทั่วไป กับ โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว มีข้อแตกต่างกันในหลากหลายด้าน ตั้งแต่การจัดการทรัพยากร การลดของเสีย ไปจนถึงวัฒนธรรมองค์กรและการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยข้อแตกต่างหลัก ๆ มีดังนี้

 

  • โรงงานทั่วไปกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว แตกต่างกันในด้านการจัดการทรัพยากรและพลังงาน

ในด้านการจัดการทรัพยากรและพนักงาน โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวจะมีระบบบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดการสิ้นเปลืองในทุกกระบวนการผลิต ในขณะที่โรงงานทั่วไปมักไม่มีการควบคุมหรือกำหนดเป้าหมายในการลดการใช้หรือทรัพยากรที่ชัดเจน

  • โรงงานทั่วไปกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว แตกต่างกันในด้านการจัดการของเสีย

ในด้านการจัดการของเสีย โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวจะมีการมุ่งเน้นการลดของเสียตั้งแต่ต้นทาง มีระบบในการเก็บรวบรวมของเสียอย่างเป็นระบบ แยกประเภทอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการส่งเสริมให้เกิดแนวคิดการหมุนเวียนทรัพยากร ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ในขณะที่โรงงานทั่วไปการจัดการของเสียมักจะเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำของกฎหมายเท่านั้น

  • โรงงานทั่วไปกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว แตกต่างกันในด้านระบบควบคุมมลพิษ

ในด้านระบบควบคุมมลพิษ โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวมักมีระบบควบคุมมลพิษทั้งในด้านคุณภาพอากาศ น้ำ และเสียง เพื่อให้สามารถควบคุมและปรับปรุงการปล่อยมลพิษให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยและเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน  ในขณะที่โรงงานทั่วไปอาจมีระบบควบคุมมลพิษเบื้องต้นเท่านั้น

  • โรงงานทั่วไปกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว แตกต่างกันในด้านวัฒนธรรมองค์กรและการมีส่วนร่วม

ในด้านวัฒนธรรมองค์กรและการมีส่วนร่วม  โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวมักส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่โรงงานทั่วไปอาจขาดการมีส่วนร่วมของพนักงานในด้านสิ่งแวดล้อมในองค์กรได้

  • โรงงานทั่วไปกับโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว แตกต่างกันในด้านแนวทางการออกแบบผลิตภัณฑ์

ในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวจะให้ความสำคัญกับการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือวัสดุที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขณะที่โรงงานทั่วไปจะพิจารณาเพียงต้นทุนและประสิทธิภาพของสินค้า

โรงงานที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวมักไม่ได้ผลิตเพียงแค่ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเพียงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

Pure Derima Laboratories โรงงานที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว Lv.2 รับผลิตผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ

ผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโรงงานผลิตเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ไม่ได้เพียงแค่ความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิต แต่ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและมีบทบาทในการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ในสายตาผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว Pure Derima Laboratories พร้อมเป็นกำลังสำคัญของท่าน เพราะเราคือโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน “อุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 2” จากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมการให้บริการแบบครบวงจรภายใต้มาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาสูตร การผลิตบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการรับรองมาตรฐานคุณภาพ นอกจากนี้เรายังพร้อมให้คำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์และการตลาดในแบบที่คุณต้องการอีกด้วย