อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด : สิ่งสำคัญที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้
ครีมกันแดด กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและมีความต้องการสูงในตลาด ทำให้หลาย ๆ คนสนใจที่จะสร้างแบรนด์ครีมกันแดดให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ซึ่งการผลิตและจำหน่ายครีมกันแดด ไม่สามารถทำได้โดยไม่มีการควบคุมมาตรฐาน สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ครีมกันแดด อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด เป็นสิ่งที่จำเป็น มาทำความรู้จักกับ บทบาทของ อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด รวมถึงข้อกำหนดที่สำคัญที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้
อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด : ครีมกันแดด คืออะไร
ครีมกันแดด เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) ที่มีส่วนผสมของ สารกันแดด ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในแสงแดด ไม่ว่าจะเป็น UVA, UVB และ UVC รวมถึงปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ที่ทำลายชั้นผิว ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือปัญหาสิวอุดตัน หรือมะเร็งผิวหนัง
ซึ่งครีมกันแดด จะมีกระบวนการทำงาน 2 รูปแบบหลัก คือ การสะท้อนแสง (Physical Sunscreen) โดยใช้สารที่สะท้อนรังสี UV ออกไป ไม่ให้สัมผัสผิวโดยตรง และการดูดซับแสง (Chemical Sunscreen) โดยใช้สารที่ดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเพื่อป้องกันผิว ซึ่งครีมกันแดดในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
หากคุณต้องการผลิตครีมกันแดดและวางจำหน่ายในประเทศไทย แบรนด์ของคุณจะได้รับการจดแจ้งจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด รวมถึงครีมกันแดดด้วย

อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด : อย. คืออะไร ?
สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรรู้ก่อนเริ่มสร้างแบรนด์ครีมกันแดด คือ อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด โดย อย. คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration) ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย โดยมีหน้าที่ดําเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยปกป้องและคุ้มครองสุขภาพประชาชนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น อาหาร ยา เวชภัณฑ์ ครีมกันแดด และเครื่องสำอาง ซึ่งผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับการจดแจ้งอย. นั้นจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย และต้องมีข้อมูลทางวิชาการที่มีหลักฐาน เชื่อถือได้ เพื่อให้ผู้บริโภคนั้นได้รับความปลอดภัย และประโยชน์จากผลิตภัณฑ์
อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด
อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด ต่างจากครีมประเภทอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งครีมกันแดดนั้น ถือเป็นเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด ทางคณะกรรมการเครื่องสำอาง จึงได้ทำการออกประกาศ เรื่อง การแสดงค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดด ของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด พ.ศ. 2560 โดยได้กำหนดมาตรฐานของครีมกันแดดไว้ ดังนี้
- การแสดงค่าความสามารถในการป้องกันรังสียูวี (UVB) หรือการแสดงค่า SPF (Sun Protection Factor) โดยผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จะต้องแสดงค่า SPF ที่ชัดเจนและตามจริง หากผลิตภัณฑ์ไหนมีค่า SPF ที่สูงกว่า ขึ้นไป สามารถแสดงเป็นระดับของประสิทธิภาพ หรือใช้แสดงค่า SPF 50+ ได้ ซึ่งผู้บริโภคควรเลือกค่า SPF ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง ทั้งนี้หากผลิตภัณฑ์หรือครีมกันแดดที่ไม่มีการทดลอง หรือมีผลการทดสอบค่า SPF ได้ ต่ำกว่า 6 หรือต่ำกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด จะห้ามไม่ให้แสดงคำว่า SPF หรือแสดงข้อความที่เกี่ยวข้องกับค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดด
- การแสดงค่าความสามารถในการป้องกันการคล้ำของผิวหนังจากรังสียูวีเอ (UVA) โดยจะใช้สัญลักษณ์ PA (Protection Grade of UVA) และเครื่องหมาย (+) ที่จะแสดงถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA ที่สูง โดยค่า PA นั้นจะเริ่มตั้งแต่ 2 จนถึงระดับสูงสุด คือ 16 ขึ้นไป โดยจะใช้สัญลักษณ์เป็น PA+ ถึง PA++++ ยิ่งค่า PA สูงยิ่งมีประสิทธิภาพในการกันแดดสูง
- การแสดงความสามารถในการกันน้ำ ในบางครีมกันแดดนั้นจะมีประสิทธิภาพในการกันน้ำ โดยจะต้องทดสอบการกันน้ำได้ที่ 40 นาที จึงจะสามารถใช้ค่าความสามารถในการกันน้ำได้ว่า “Water resistance” หรือหากมีการทดสอบการกันน้ำที่ 80 นาที ก็สามารถระบุบนฉลากว่า “Very water resistance” ได้

ทำไมต้องจดแจ้ง อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด
- เพื่อรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
ครีมกันแดด ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง หากไม่มีการตรวจสอบ หรือทดสอบ อาจจะทำให้พบส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งการจดแจ้งอย. จะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าครีมกันแดดมีการตรวจสอบส่วนผสมต่าง ๆ รวมถึงสูตรที่มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้
- เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์
ต้องยอมรับว่าการเลือกซื้อครีมกันแดดของผู้บริโภคนั้น มักจะมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีเลขที่จดแจ้งจากอย. อย่างชัดเจนบนฉลาก เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือ
- เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมาย
หากต้องการสร้างแบรนด์ครีมกันแดด สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรทำ คือ การยื่นจดแจ้งเลขอย. เนื่องจากการผลิตหรือการจำหน่ายครีมกันแดดที่ไม่มีอย.นั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งอาจมีโทษปรับ จำคุก และส่งผลเสียต่อชื่อแบรนด์ได้
- เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย
ครีมกันแดดนั้นจัดอยู่ในกลุ่ม “เครื่องสำอางควบคุม” ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ซึ่งกำหนดให้ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายนั้น ต้องขึ้นทะเบียนจดแจ้งเลขที่อย. ก่อนจำหน่าย ซึ่งการปฏิบัติตามข้อกฎหมายนั้นจะช่วยทำให้แบรนด์ของคุณมีความยั่งยืนในระยะยาว
- เพื่อป้องกันผลกระทบต่อผู้บริโภค
หากผลิตครีมกันแดด และไม่มีการทดสอบ หรือจดแจ้งงอย. เมื่อเกิดปัญหาการระคายเคือง, ผิวไหม้ หรือการแพ้อาจจะถูกฟ้องร้องจากผู้บริโภคได้ ทั้งนี้การจดแจ้ง อย. แสดงถึงความรับผิดชอบของผู้ผลิตต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
- เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด
ครีมกันแดดที่ได้รับการจดแจ้งอย. นั้นจะสามารถตีตลาดได้กว้างกว่า เนื่องจากเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง สามารถจำหน่ายได้อย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็น การจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ออกบูธ มีหน้าร้าน หรือขายออนไลน์ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้มากกว่าครีมกันแดดที่ไม่ผ่านการจดแจ้งอย.
- เพื่อรองรับการส่งออก
หากเจ้าของแบรนด์ต้องการให้แบรนด์มีความเติบโต สามารถส่งออกได้หลายประเทศ การมีเอกสารจดแจ้ง อย. จะช่วยยืนยันมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า ทั้งยังเป็นข้อกำหนดสำคัญในหลายประเทศ ที่จะช่วยให้ครีมกันแดดสามารถส่งออกได้
ครีมกันแดดต้องจด อย. ประเภทไหน ?
ครีมกันแดด ถือเป็นหนึ่งใน เครื่องสำอางควบคุมพิเศษ (Regulated Cosmetics) ตามกฎหมายประเทศไทย และต้องดำเนินการจดแจ้งกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เช่นเดียวกับเครื่องสำอางทั่วไป แต่จะมีความแตกต่างจากเครื่องสำอางทั่วไป เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องผิวจากรังสียูวี (UV) เช่น สารกันแดด (UV filters) และอาจมีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม จึงต้องผ่านการจดแจ้งกับ อย. ก่อนการผลิตหรือจำหน่าย และต้องแสดงรายละเอียดที่ถูกต้องบนฉลากอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ค่า SPF และ PA ส่วนประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่กันแดด และวิธีใช้และคำเตือน

ขั้นตอนการขอ อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด
การขอจดแจ้ง อย. ของครีมกันแดด มีขั้นตอนหลัก ๆ ที่เจ้าของแบรนด์หรือเจ้าของกิจการควรทราบ ดังนี้
- เตรียมเอกสาร
การจดแจ้งขอเลขที่อย. ของครีมกันแดดนั้นต้องใช้เอกสารที่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโรงงานที่รับผลิตครีมกันแดด ซึ่งขั้นตอนการเตรียมเอกสารนั้นเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียด เนื่องจากมีเอกสารที่จำเป็นต้องใช้หลากหลาย หากเอกสารไม่ครบจะไม่สามารถผ่านไปขั้นตอนอื่น ๆ ได้ ซึ่งเอกสารที่สำคัญ มีดังนี้
- ใบคำขอขึ้นทะเบียน ที่กรอกข้อมูลครบถ้วน
- สูตรผลิตครีมพร้อมขาย พร้อมรายละเอียดส่วนผสมและปริมาณที่ชัดเจน
- ผลการทดสอบความปลอดภัยของการผลิตครีมพร้อมขาย และการทดสอบอื่น ๆ เช่น การทดสอบการระคายเคืองและจุลชีววิทยา
- เอกสารการรับรองคุณภาพและแหล่งที่มาของวัตถุดิบ (ถ้ามี)
- ใบรับรองการผลิตครีมพร้อมขายที่แสดงถึงมาตรฐานการผลิต
- ข้อมูลการติดฉลากของผลิตภัณฑ์ ต้องถูกต้องตามข้อกำหนดของ อย.
- ข้อมูลของโรงงานที่ผลิตครีมกันแดด
- การชำระค่าธรรมเนียม
การชำระค่าธรรมเนียมในการจดแจ้ง อย. โดยค่าธรรมเนียมนั้นก็จะขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ อย.กำหนด และนอกจากนี้ยังมีค่าดำเนินการในส่วนของโรงงาน โดยจะขึ้นอยู่กับเกณฑ์ของแต่ละโรงงาน
- ยื่นคำขอจดแจ้งอย.
ในการยื่นขอจดแจ้ง อย. สำหรับครีมกันแดดนั้น ต้องผ่านการประเมินความเสี่ยงและความปลอดภัยของตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งทางเจ้าของแบรนด์จะต้องยื่นเอกสารตามข้อกำหนดของอย. ให้ครบถ้วน เพื่อให้ทางอย. นั้นได้ตรวจสอบความถูกต้องของสูตรครีมกันแดด และสารเคมีต่าง ๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าส่วนผสมภายในครีมกันแดดจะไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังของผู้ใช้
- เจ้าหน้าที่ อย. อนุมัติผล
เมื่อยื่นเอกสารต่าง ๆ ครบถ้วนแล้วนั้น ขั้นตอนต่อมา คือ การรอทางเจ้าหน้าที่ อย. อนุมัติผล โดยจะดำเนินการประมาณ 7-14 วันทำการ จะเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการขออย. ครีมกันแดด
- การติดฉลากครีมกันแดดอย่างถูกต้อง
การยื่นขอจดแจ้ง อย. ของครีมกันแดด จะต้องนำฉลากผลิตภัณฑ์มาให้ทางอย. ตรวจสอบความถูกต้อง โดยตัวครีมกันแดดจะต้องมีฉลากที่ระบุรายละเอียดส่วนผสม วิธีการใช้ วันผลิตและวันหมดอายุ คำเตือนในการใช้งาน และเลขที่ใบจดแจ้งที่ชัดเจน เพื่อช่วยป้องกันการเข้าใจผิด และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ครีมกันแดดไม่ขอยื่นจดแจ้ง อย. ได้ไหม ?
อยากสร้างแบรนด์ครีมกันแดด แต่ไม่จดแจ้งอย. ได้ไหม? ต้องบอกเลยว่าไม่แนะนำ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งในไทยและในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีปัญหาหลาย ๆ อย่างที่อาจจะตามมา ดังนี้
- การไม่จด อย. ในครีมกันแดดมีความผิดทางกฎหมาย
สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรคำนึงถึงก่อนสร้างแบรนด์ คือ การจำหน่ายสินค้าอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งการจดแจ้งอย. ก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่นอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในครีมกันแดดแล้วนั้น ยังช่วยทำให้สินค้าถูกกฎหมายอีกด้วย ซึ่งการจำหน่ายครีมกันแดดที่ไม่มีการจดแจ้งทะเบียน อย. ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และอาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีและถูกปรับ หรือถูกสั่งห้ามจำหน่ายนั่นเอง
- การไม่จด อย. ในครีมกันแดดเสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภค
การไม่จดแจ้ง อย. ทำให้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ไม่ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัย และตรวจสอบมาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้มีสารอันตรายหรือส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัยที่อาจจะส่งผลเสีย และการเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
- การไม่จด อย. ในครีมกันแดดทำให้แบรนด์ขาดความน่าเชื่อถือ
ครีมกันแดดที่ไม่มีการจดแจ้งอย. นั้น จะถูกมองว่าเป็นครีมที่ไม่มีความปลอดภัย และไม่มีความน่าเชื่อถือได้ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคไม่เลือกใช้ ซึ่งทำให้ตัวแบรนด์เองขาดความน่าเชื่อถือ
- การไม่จด อย. ในครีมกันแดดจะไม่สามารถจำหน่ายได้
เมื่อไม่มีการจดแจ้งอย. ในครีมกันแดดให้ถูกต้องตามกฎหมาย อาจจะทำให้ครีมกันแดดนั้นไม่สามารถวางจำหน่ายตามท้องตลาดได้ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และไม่มีการรับรองความปลอดภัย หรืออาจจะถูกยึดสินค้าได้
- การไม่จด อย. ในครีมกันแดดจะมีผลกระทบในธุรกิจ
ครีมกันแดด หรือเครื่องสำอางที่ไม่มีการจดแจ้งอย. นั้น อาจจะทำให้เกิดการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ว่าไม่มีมาตรฐาน และไม่ได้จดแจ้งเลขที่อย. ซึ่งอาจจะส่งผลให้ชื่อเสียงของแบรนด์นั้นเกิดความเสียหาย และกระทบถึงการจำหน่ายสินค้าที่น้อยลง
การจด อย.ในครีมกันแดดสำคัญยังไง ?
การจดแจ้ง อย. ของครีมกันแดด มีความสำคัญอย่างมากในการรับรองความปลอดภัย และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการจดแจ้ง อย. ในครีมกันแดดและเครื่องสำอางมีความสำคัญหลายด้าน ดังนี้
- จด อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด เพื่อรับประกันคุณภาพและความปลอดภัย
การจดแจ้ง อย. ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญ แสดงให้เห็นว่าครีมกันแดดนั้นมีความปลอดภัย ไร้ส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากได้รับการตรวจสอบ และผ่านมาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน จากหน่วยงานที่สำคัญอย่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
- จด อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการจดแจ้งอย.นั้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ได้ เนื่องจากผ่านการตรวจสอบคุณภาพ และความปลอดภัย โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่มีการจดแจ้งอย. ได้อย่างมั่นใจว่ามีคุณภาพ และมีความปลอดภัย
- จด อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหรือข้อร้องเรียน
การจัดจำหน่ายครีมกันแดดที่ไม่มีการจดแจ้งอย. นั้น ถือเป็นกระทำที่ผิดกฎหมาย และอาจจะทำให้ทางแบรนด์นั้นถูกลงโทษทางกฎหมาย การปรับ หรือการถูกร้องเรียนในอนาคตได้ ซึ่งการจดแจ้งอย. ครีมกันแดดจะช่วยแก้ปัญหาทางกฎหมายได้ เนื่องจากทางแบรนด์นั้นมีเอกสารที่แสดงถึงความปลอดภัยของครีมกันแดดอย่างชัดเจน
- จด อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์
การที่ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดมีการจดแจ้งอย. นั้น จะช่วยทำให้แบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของผู้บริโภค เนื่องจากครีมกันแดดที่มีการจดแจ้งอย. จะถือเป็นการรับรองคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวแบรนด์
- จด อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในและต่างประเทศ
การจดทะเบียน อย. สามารถช่วยเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถส่งออกครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางไปยังตลาดต่างประเทศได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก อย. ยังเป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบและยอมรับการนำเข้าครีมกันแดดในหลาย ๆ ประเทศ
อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด : การจด อย.ในครีมกันแดดยากไหม ?
การขอจดแจ้งอย. ในครีมกันแดดนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก หากเตรียมเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน และเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่กลัวว่าจะเตรียมเอกสารหรือข้อมูลไม่ครบ ทางโรงงานของเรานั้นก็มีผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้คำปรึกษาในการจดแจ้งขออย. ครีมกันแดด ทำให้การขออย. นั้นราบรื่นมากขึ้น

อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด ต้องจดที่ไหน ?
การจดแจ้ง อย. สำหรับครีมกันแดด สามารถดำเนินการได้กับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย ซึ่งสามารถจดแจ้งได้ 2 ช่องทาง ดังนี้
-
- การยื่นเอกสารที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ส่วนกลาง หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โดยสามารถยื่นเอกสารได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ประกอบการควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อมและครบถ้วน
- ช่องทางออนไลน์สำหรับจดแจ้ง เพื่อความสะดวกมากขึ้น อย. ได้เปิดให้ผู้ประกอบการสามารถจดแจ้งผ่านระบบออนไลน์ โดยเข้าใช้งานผ่านระบบ e-Submission ของ อย. https://www.fda.moph.go.th/ โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทะเบียนใช้งานในระบบก่อน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เกิดความสะดวก และความรวดเร็ว เพราะช่วยลดขั้นตอนในระยะเวลาในการยื่นเอกสาร
การจด อย. ครีมกันแดดสามารถทำผ่านบริษัทที่ปรึกษาได้ไหม ?
สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่อยากจะจดแจ้งอย. แต่ยังไม่มั่นใจ สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ หรือสามารถทำผ่านบริษัท หรือโรงงานรับผลิตครีมกันแดดที่มีบริการดูแลแบบครบวงจร เนื่องจากการจดแจ้ง อย. นั้นมีกระบวนการที่ละเอียด และมีข้อกำหนดที่เข้มงวด ทำให้จำเป็นที่จะต้องเตรียมข้อมูลอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น รายละเอียดส่วนผสม การทดสอบความปลอดภัยที่ต้องเป็นไปตามกฎและมาตรฐานของอย. ดังนั้นหากมีที่ปรึกษาก็จะช่วยให้คุณเตรียมตัวขออย. ได้ง่ายขึ้น
บริษัท เพียวเดอริมา แลบบอราทอรีส์ จำกัด โรงงานรับผลิตครีมกันแดด
บริษัท Pure Derima Laboratories เพียวเดอริมา แลบบอราทอรีส์ จำกัด โรงงานรับผลิตครีมกันแดดที่มีมาตรฐาน ดูแลโดยทีมนักวิจัยและพัฒนาสูตร ที่ทำงานร่วมกับแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ที่มั่นใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นจะมีคุณภาพ และมีความปลอดภัย มาพร้อมการดูแลแบบครบวงจร one stop service ที่จะช่วยดูแลแบรนด์ของคุณตั้งแต่เริ่มสร้างแบรนด์ ไปตลอดจนถึงการวางแผนการตลาด รวมถึงการขอจดแจ้งเลขที่อย. ที่จะทำให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

Pure Derima มีบริการดำเนินการจดแจ้ง อย. และ Halal
ทางโรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories ของเรา นอกจากจะมีบริการคิดค้นสูตรครีมกันแดด รับผลิตครีมกันแดดแล้วนั้น ยังมีบริการดูแลช่วยเหลือการจดแจ้งเครื่องหมายทางการค้า การจดแจ้งลิขสิทธิ์ทางปัญญา และการจดแจ้งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับครีมกันแดด ก่อนวางจำหน่าย ดังนี้
- บริการการจดแจ้ง เลขทะเบียน อย. ครีมกันแดด
- บริการจดแจ้งเครื่องหมาย ฮาลาล สำหรับครีมกันแดด
- บริการด้านเอกสารการส่งออกครีมกันแดด
- บริการด้านเอกสารใบรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ Certificate of Analysis (COA)
- บริการเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ Material Safety Data Sheet (MSDS)
โรงงานรับผลิตครีมกันแดดที่ดี มีวิธีเลือกอย่างไร
หากต้องการสร้างแบรนด์ครีมกันแดด การเลือกโรงงานที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัย และการสร้างแบรนด์ในระยะยาว โดยสามารถพิจารณาได้ ดังนี้
- มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง
โรงงานผลิตครีมกันแดดควรมีทีมพัฒนาและวิจัย นักเคมี, นักวิจัย, หรือแพทย์ผิวหนัง ที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตร และมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมสกินแคร์และครีมกันแดดมาอย่างยาวนาน เนื่องจากการผลิตครีมกันแดดจำเป็นที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ สารกันแดด, SPF, PA และสามารถพัฒนาสูตรเฉพาะที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้ นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้เรื่องเทรนด์ตลาด เพื่อให้แบรนด์ครีมกันแดดสามารถตีตลาดกลุ่มเป้าหมายได้ เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณภาพสูง ปลอดภัย และตรงกับความต้องการของตลาด
- โรงงานมีที่ตั้งชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้
โรงงานรับผลิตครีมกันแดดควรมีสถานที่ตั้งจริง มีที่อยู่ ระบุชัดเจน บนเว็บไซต์หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย และสามารถเข้าไปตรวจสอบกระบวนการผลิตได้ ทางโรงงานรับผลิตครีมกันแดดควรมีช่องทางติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, เว็บไซต์ หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย ที่สามารถใช้งานได้จริง เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าโรงงานถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ใช่โรงงานเถื่อน
- โรงงานได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต
โรงงานผลิตครีมกันแดดที่ดีควรมีมาตรฐานระดับสากลรองรับ มั่นใจได้ว่าสินค้าปลอดภัย และสามารถจำหน่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น
-มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) คือ มาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัย
-มาตรฐาน ISO คือ มาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางระดับสากล
-อย. (FDA Thailand) ที่สามารถขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับ อย. ได้
-มาตรฐาน Halal เป็นมาตรฐานที่รับรองว่า ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม
- มีบริการครบวงจร (One Stop Service)
เลือกโรงงานรับผลิตครีมกันแดดที่สามารถให้บริการครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ หรือ One Stop Service อย่างโรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories ช่วยลดความยุ่งยาก ประหยัดเวลา และทำให้แบรนด์เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น เช่น
-คิดค้นและพัฒนาสูตร (OEM / ODM)
-เลือกและออกแบบบรรจุภัณฑ์
-ออกแบบฉลาก โลโก้ และแพ็กเกจจิ้ง
-ผลิตและบรรจุสินค้า
-ขึ้นทะเบียน อย.
-ขนส่งและกระจายสินค้า
- โรงงานให้คำปรึกษาทางธุรกิจได้
โรงงานรับผลิตครีมกันแดดที่ดีควรเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมากกว่าผู้รับผลิต ที่จะช่วยให้คำแนะนำด้าน การตลาด, การตั้งราคา, และช่องทางจัดจำหน่าย และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การจดแจ้ง อย. และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
อย. กับการรับผลิตครีมกันแดด ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์มือใหม่ ที่ต้องการผลิตครีมกันแดด ซึ่งการจดแจ้งขอเลขอย. นั้น มีขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียด ทางโรงงาน Pure Derima Laboratories พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาสูตรครีมกันแดด การผลิตครีมกันแดดอย่างมีคุณภาพ ตลอดจนการขอจดแจ้งอย. ที่เราจะช่วยให้ขั้นตอนการขอเลขอย. สะดวกสบายมากขึ้น