น้ำตบ คืออะไร? ตัวช่วยผิวชุ่มชื้นที่ควรมี เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์ผิว

น้ำตบ

น้ำตบเป็นหนึ่งในสกินแคร์ที่หลายคนขาดไม่ได้ในการดูแลผิว ด้วยเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าน้ำตบช่วยอะไร และใช้ตอนไหนถึงดีต่อผิว บทความนี้จะพาไปรู้จัก น้ำตบ คืออะไร? เลือกน้ำตบอย่างไรให้ตอบโจทย์กับสภาพผิว และอยากเป็นเจ้าของแบรนด์น้ำตบต้องทำอย่างไร?

 

น้ำตบ คืออะไร?
น้ำตบ คืออะไร?

 

น้ำตบ คืออะไร?

น้ำตบ (Facial Essence หรือ Water Essence) คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมฟื้นฟูและบำรุงเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยสารสกัดที่เข้มข้น มีลักษณะเป็นของเหลวใสหรือขุ่น มีเนื้อบางเบา สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ไม่หนักหน้า และน้ำตบยังมีหลายสูตรให้ได้เลือกจึงเหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย 

 

น้ำตบ มีจุดเด่นอย่างไร?

  • น้ำตบซึมซาบไวมาก เนื่องจากเนื้อสัมผัสของน้ำตบมีความบางเบา ทำให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว 
  • น้ำตบช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น โดยส่วนมากน้ำตบจะมีส่วนผสมที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว ไม่ว่าจะเป็น Hyaluronic Acid และ Glycerin ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดี
  • น้ำตบช่วยปรับสมดุลผิวหลังล้างหน้า น้ำตบสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวที่แห้งหลังล้างหน้าได้ และช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุง
  • น้ำตบช่วยฟื้นบำรุงผิวที่ขาดน้ำ สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ หรือผิวหมองคล้ำ น้ำตบจะช่วยเติมคืนความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างรวดเร็ว
  • น้ำตบช่วยทำให้สกินแคร์ตัวอื่นทำงานได้ดีขึ้น เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ จะช่วยทำให้เซรั่มหรือครีมบำรุงผิวสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และผิวหน้าสามารถรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่

 

น้ำตบ มีประโยชน์อะไรบ้าง?

  • น้ำตบช่วยลดโอกาสการเกิดสิว

น้ำตบสำหรับผู้ที่มีผิวมัน หรือน้ำตบสูตรลดสิว สามารถช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิว และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงแล้ว ในบางสูตรที่มีสารสกัด BHA (Salicylic Acid) ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้อย่างอ่อนโยน ลดการสะสม และการอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ 

  • น้ำตบช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า

น้ำตบสามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ และเสริมความแข็งแรงให้ผิว ช่วยลดปัญหาผิวลอก ผิวแห้งตึง หรือความรู้สึกไม่สบายผิวได้ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวแบบอ่อนโยน แม้ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้

  • น้ำตบช่วยลดความมันบนใบหน้า

ความมันส่วนเกินบนใบหน้าสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฮอร์โมน ความเครียด หรือพฤติกรรมในแต่ละวัน ที่ทำให้ผิวดูหมองและเกิดความมันระหว่างวัน น้ำตบสามารถช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันใต้ชั้นผิวและลดโอกาสที่น้ำมันส่วนเกินจะทำให้รูขุมขนอุดตัน จึงช่วยลดการเกิดสิวได้

  • น้ำตบช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น

สำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง น้ำตบบางสูตรสามารถช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง พร้อมปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น

  • น้ำตบช่วยดูแลเรื่องริ้วรอยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

โดยส่วนมากแล้วน้ำตบจะช่วยเติมน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิวให้แข็งแรงขึ้น ผิวดูอิ่มฟู กระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ ให้ดูจางลง

 

น้ำตบ เซรั่ม และโทนเนอร์ ต่างกันอย่างไร

หลายคนอาจสงสัยว่า น้ำตบ เซรั่ม และโทนเนอร์ ต่างกันหรือไม่ แม้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายกัน แต่ก็มีคุณสมบัติและการใช้ใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้ 

  • น้ำตบ (Essence)

น้ำตบจะมีเนื้อสัมผัสบางเบา สามารถซึมเข้าสู่ผิวง่ายกว่าเซรั่ม เหมาะสำหรับใช้เป็นขั้นตอนแรกในการเตรียมผิวก่อนบำรุงหลังโทนเนอร์ มีหลากหลายสูตรให้เลือก โดยส่วนมากจะช่วยเติมน้ำให้ผิวแบบเร่งด่วน พร้อมเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวอิ่มฟูและเตรียมพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป

  • เซรั่ม (Serum)

เซรั่มจะมีเนื้อสัมผัสเข้มข้นกว่า สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ล้ำลึก เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดเล็ก และมีสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิวที่เข้มข้นมากกว่าน้ำตบ เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวแบบเฉพาะจุด เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิว หรือผิวหมองคล้ำ จึงมักใช้หลังจากลงน้ำตบ

  • โทนเนอร์ (Toner)

โทนเนอร์มีเนื้อสัมผัสเป็นของเหลวที่บางเบา เป็นตัวช่วยเตรียมผิวในขั้นตอนแรกหลังล้างหน้า ช่วยปรับสมดุลผิว ลดความแห้งตึง และทำความสะอาดสิ่งตกค้างที่อาจยังหลงเหลืออยู่บนผิว ทำให้ผิวพร้อมสำหรับขั้นตอนบำรุงต่อไป ทั้งยังสามารถนำมาใช้แทนมาส์กหน้าก่อนการแต่งหน้าได้

 

น้ำตบใช้ตอนไหน? มีวิธีใช้น้ำตบอย่างไร?

น้ำตบควรใช้ตอนไหน ? น้ำตบเป็นสกินแคร์ที่ช่วยเตรียมผิวก่อนการบำรุงด้วยเซรั่มหรือครีม การใช้น้ำตบให้ถูกขั้นตอน จะช่วยทำให้ผิวพร้อมสำหรับการรับสารบำรุงได้แบบเต็มที่ ซึ่งวิธีใช้น้ำตบให้ถูกวิธีสามารถทำได้ ดังนี้

  1. ทำความสะอาดผิวให้หมดจด เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง
  2. ซับผิวให้แห้งด้วยทิชชูหรือผ้าสะอาดเบา ๆ
  3. เช็ดผิวด้วยโทนเนอร์ เพื่อปรับสมดุลผิวหลังล้างหน้า ทำให้ผิวชุ่มขึ้นและพร้อมสำหรับขั้นตอนบำรุง
  4. ตามด้วยการใช้น้ำตบเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยให้ผิวแข็งแรง โดยการเทน้ำตบลงบนฝ่ามือ และลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ จากนั้นตบเบา ๆ ด้วยปลายนิ้ว เพื่อช่วยให้น้ำตบซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว
  5. ลงเซรั่มต่อทันที เพื่อช่วยบำรุงผิวเฉพาะจุด เช่น จุดด่างดำ รอยสิว หรือผิวแห้ง
  6. จากนั้นทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้นที่ให้ผิว

 

เลือกน้ำตบอย่างไรให้เหมาะกับปัญหาผิว
เลือกน้ำตบอย่างไรให้เหมาะกับปัญหาผิว

 

เลือกน้ำตบอย่างไรให้เหมาะกับปัญหาผิว

การเลือกน้ำตบให้ตรงกับปัญหาผิว จะช่วยทำให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพขึ้น และช่วยสามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด โดยน้ำตบแต่ละสูตรจะมีสารสกัดหรือส่วนผสมที่แตกต่างกัน และเหมาะกับปัญหาผิวแตกต่างกันไป ดังนี้

  • น้ำตบบำรุงผิวชุ่มชื้น

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวลอกง่าย หรือรู้สึกตึงผิวหลังล้างหน้า สามารถเลือกน้ำตบที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ที่มีส่วนผสมสำคัญอย่าง Hyaluronic Acid เพื่อช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว และ Glycerin ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวที่แห้งกร้านดูอิ่มน้ำ เรียบเนียนขึ้น และยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดปัญหาผิวแห้ง หรือผิวลอกได้

  • น้ำตบผิวกระจ่างใส

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือมีรอยสิว สามารถเลือกใช้น้ำตบที่ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ ที่มีส่วนผสมอย่าง Niacinamide ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น และ Vitamin C ที่ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่าง ดูสดใสมีชีวิตชีวา พร้อมช่วยลดรอยแดง รอยดำจากสิว

  • น้ำตบลดระคายเคือง

เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือผิวระคายเคืองและมักมีรอยแดง สามารถเลือกใช้น้ำตบที่ช่วยลดการระคายเคือง เน้นการปลอบประโลมผิว ที่มีส่วนผสมสำคัญ เช่น Centella Asiatica (ใบบัวบก) หรือ Mugwort ที่ช่วยลดความตึงผิว และความไม่สบายผิว Aloe Vera ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวรู้สึกเย็นสบาย ช่วยปลอบประโลมผิวจากการแพ้ และยังช่วยบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน

  • น้ำตบลดริ้วรอย

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้เรียบเนียนและดูสดใสขึ้น และมีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ สามารถเลือกใช้น้ำตบลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมของ Peptide ที่ช่วยกระชับผิวให้เต่งตึง Collagen ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดูอิ่มฟู และ Galactomyces ที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและมีชีวิตชีวา

 

น้ำตบเหมาะกับผิวแบบไหนบ้าง?

น้ำตบเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพราะมีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเร็ว และช่วยบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน โดยน้ำตบแต่ละสูตรจะสามารถแก้ไขปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าผิวแบบไหนเหมาะกับน้ำตบบ้าง

  • ผิวแห้ง ผิวลอกง่าย

ผิวแห้งมักเกิดจากการที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้าน ผิวลอก และดูหมองได้ ควรเลือกใช้น้ำตบที่มีสารสกัดในกลุ่มความชุ่มชื้น เช่น Hyaluronic Acid, Glycerin หรือ Ceramide ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว ลดความแห้งกร้าน กักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน และช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เพื่อช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดี

  • ผิวมัน ผิวขาดน้ำ

หลายคนอาจจะเข้าใจผิวมันไม่จำเป็นต้องใช้น้ำตบ หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ความจริงแล้วนั้นผิวมันอาจเกิดได้จากผิวขาดน้ำ ดังนั้น ควรเลือกใช้น้ำตบที่บางเบา ช่วยลดการอุดตัน และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมปรับสมดุลผิว หรือเลือกสูตรที่มีสารสกัดที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น Zinc, Niacinamide ที่ไม่ทำให้หนักผิว และช่วยลดการผลิตน้ำมันใต้ชั้นผิวได้

  • ผิวแพ้ง่าย ต้องการบำรุงแบบอ่อนโยน

ผิวแพ้ง่ายควรเลือกน้ำตบที่มีความอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน มีเนื้อบางเบา เพราะสามารถซึมสู่ผิวได้เร็ว ไม่ทำให้อุดตัน และควรเลือกสูตรที่มีสารสกัดที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง เช่น Centella Asiatica (ใบบัวบก), Mugwort หรือ Chamomile ที่ช่วยลดการระคายเคือง ปลอบประโลมผิว และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงมากขึ้น 

 

แนะนำส่วนผสมนิยมในน้ำตบ
แนะนำส่วนผสมนิยมในน้ำตบ

 

แนะนำส่วนผสมนิยมในน้ำตบ

น้ำตบ เป็นสกินแคร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและฟื้นบำรุงผิว มีหลายสารสกัดที่นิยมในการผลิตน้ำตบที่ช่วยดูแลพร้อมบำรุงผิวให้อย่างอ่อนโยน ซึ่งสารสกัดที่นิยมใช้ในการบำรุงผิวในน้ำตบมี ดังนี้

  • Hyaluronic Acid (กรดไฮยาลูรอนิก)

สารให้ความชุ่มชื้นที่มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น พร้อมเติมน้ำให้ผิวดูอิ่มฟู และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ และแข็งแรงขึ้น

  • Glycerin (กลีเซอรีน)

สารให้ความชุ่มชื้นที่มีความอ่อนโยน และนิยมใช้ในสกินแคร์หลายประเภท มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ปรับผิวให้เรียบเนียน และลดความแห้งกร้าน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว

  • Niacinamide (วิตามินบี 3)

สารสกัดยอดนิยมที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ และช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น พร้อมปรับสมดุลของผิวให้แข็งแรง จึงเหมาะสำหรับผิวมันและผิวขาดน้ำ

  • Centella Asiatica (สารสกัดใบบัวบก)

สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง พร้อมฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

  • Mugwort (สารสกัดอาร์เทมิเซีย)

สารสกัดจากธรรมชาติจิงจูฉ่าย ที่ช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ ช่วยปลอบประโลมผิวจากผดผื่น รอยแดง เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวถูกทำร้ายจากมลภาวะ ผิวมัน และผิวแพ้ง่าย

  • Aloe Vera (ว่านหางจระเข้)

สารสกัดจากธรรมชาติช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง และช่วยให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือผิวอักเสบ

  • Peptide (เปปไทด์)

สารสกัดยอดนิยมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระชับ เรียบเนียน เพิ่มความชุ่มชื้น กระชับผิวให้เต่งตึง เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย หรือผิวอ่อนล้าต้องการการฟื้นฟู

  • Galactomyces / Ferment Extract (สารสกัดหมักยีสต์)

สารสกัดที่ช่วยปรับสมดุลผิว พร้อมเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวดูมีชีวิตชีวา และเรียบเนียนขึ้น เป็นอีกหนึ่งสารสกัดที่นิยมใช้ในน้ำตบหลายแบรนด์

  • Vitamin C (วิตามินซี)

สารสกัดยอดนิยมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ช่วยปรับให้ผิวดูมีชีวิตชีวา ลดความหมองคล้ำ ลดเลือนรอยสิว และช่วยให้ผิวสดใสขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย

  • Zinc PCA

สารสกัดที่ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันของผิว และลดโอกาสของการเกิดสิว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันหรือผิวเป็นสิวง่าย 

 

3 ส่วนผสมในน้ำตบ ที่อาจทำร้ายผิวไม่รู้ตัว

แม้ว่าน้ำตบจะเป็นสกินแคร์ที่ช่วยบำรุงผิวได้อย่างครอบคลุม แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผิวบอบบางเป็นสิว การเลือกน้ำตบนอกจากจะดูสูตรหรือสารสกัดหลักแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องดูส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหรือเกิดอาการแพ้ ซึ่ง 3 ส่วนผสมหลักในน้ำตบที่อาจทำร้ายผิวที่ควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้

  • แอลกอฮอล์ (Alcohol)

แอลกอฮอล์มักถูกนำมาใช้ในสกินแคร์หลายประเภท เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถช่วยให้เนื้อของผลิตภัณฑ์แห้งและซึมได้ไว แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงน้ำตบที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ และผิวอ่อนแอลง เมื่อใช้ต่อเนื่องอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่ายขึ้น

  • น้ำหอม (Fragrance)

น้ำหอมเป็นส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มกลิ่นให้กับผลิตภัณฑ์นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์หลายประเภท รวมถึงสกินแคร์ แต่สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่ไวต่อการระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงการเลือกน้ำตบที่มีส่วนผสมน้ำหอม เพื่อช่วยลดโอกาสในการแพ้ หรือการเกิดผื่นแดงได้

  • พาราเบน (Paraben)

พาราเบนเป็นสารกันเสียที่นิยมใช้ในสกินแคร์ เพื่อช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราในผลิตภัณฑ์ ซึ่งพาราเบนได้รับการทดสอบว่าปลอดภัยต่อการใช้งานในเครื่องสำอาง แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผิวบอบบาง อาจรู้สึกระคายเคืองผิวได้ เมื่อใช้น้ำตบที่มีพาราเบนในปริมาณสูงหรือใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

 

น้ำตบเหมาะกับใคร ?

น้ำตบ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย โดยสามารถเลือกสูตรที่เหมาะกับผิว เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้น้ำตบยังเป็นอีกหนึ่งสกินแคร์ที่ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับสกินแคร์อื่น ๆ และช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น ซึ่งน้ำตบเหมาะกับ

 

  1. ผู้ที่ผิวแห้งหรือต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
  2. ผู้ที่มีผิวมันหรือผิวขาดน้ำต้องการปรับสมดุลผิว
  3. ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวอ่อนแอ ต้องการเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
  4. ผู้ที่ต้องการเตรียมผิวเพื่อพร้อมรับการบำรุงได้ดีขึ้น
  5. ผู้ที่ต้องการสกินแคร์บำรุงผิวที่บางเบา ซึมไว ไม่อุดตันง่าย 
  6. ผู้ที่ต้องการสกินแคร์ที่บำรุงผิวได้อย่างรวดเร็วและเบาสบาย

 

ผลิตน้ำตบ พร้อมพัฒนาสูตรสำหรับเจ้าของแบรนด์

การผลิตน้ำตบ เป็นอีกหนึ่งหมวดสกินแคร์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะมีกลุ่มเป้าหมายที่กว้างและหลากหลาย เนื่องจากน้ำตบสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่ต้องการการฟื้นฟู จึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่อยากเริ่มทำธุรกิจในตลาดสกินแคร์

การเลือกโรงงานรับผลิตน้ำตบที่ได้มาตรฐานและมีการดูแลแบบครบวงจร จะช่วยให้การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น เพราะโรงงานรับผลิตน้ำตบที่จะมีทีมงานที่ช่วยดูแลตั้งแต่ การวิจัยและพัฒนาสูตร ทดสอบประสิทธิภาพ เลือกแพ็กเกจ ออกแบบฉลาก ไปจนถึงกระบวนการผลิตน้ำตบภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อช่วยให้เจ้าของแบรนด์มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีคุณภาพ ปลอดภัย และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้

 

โรงงานรับผลิตน้ำตบแบบครบวงจร Pure Derima Laboratories
โรงงานรับผลิตน้ำตบแบบครบวงจร Pure Derima Laboratories

 

โรงงานรับผลิตน้ำตบแบบครบวงจร Pure Derima Laboratories 

โรงงานรับผลิตน้ำตบ Pure Derima Laboratories เราคือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่จะช่วยดูแลการสร้างแบรนด์น้ำตบตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างราบรื่นและสะดวกมากขึ้น ซึ่งโรงงานรับผลิตน้ำตบเรามีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ที่ดูแลโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในการสร้างแบรนด์มายาวนาน ดังนี้

  • โรงงานรับผลิตน้ำตบมีบริการให้คำปรึกษา
  • โรงงานรับผลิตน้ำตบมีบริการขึ้นทะเบียน และเอกสาร
  • โรงงานรับผลิตน้ำตบมีบริการออกแบบฉลากสินค้า
  • โรงงานรับผลิตน้ำตบมีบริการวิจัยและพัฒนาสูตร

นอกจากนี้ทางโรงงานรับผลิตน้ำตบ Pure Derima Laboratories ยังได้รับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากลมากมาย เช่น GMP (Good Manufacturing Practice), มาตรฐาน ISO, ASEAN Cosmetic GMP, มาตรฐาน Green Industry และ Halal เพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่ากระบวนการผลิตน้ำตบและผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีคุณภาพ มีความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

 

จุดเด่นของการผลิตน้ำตบสำหรับแบรนด์ของคุณ

  • การผลิตน้ำตบสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย เนื่องจากน้ำตบเป็นสกินแคร์ขั้นพื้นฐานที่นิยมใช้เป็นประจำ
  • การผลิตน้ำตบมีสูตรให้เลือกหลากหลาย และสูตรมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากสามารถเลือกสารสกัดได้อย่างหลากหลาย เช่น สูตรชุ่มชื้น สูตรหน้าใส สูตรลดการระคายเคือง หรือสูตรผิวเรียบเนียน
  • การผลิตน้ำตบมีเนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ทำให้ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
  • การผลิตน้ำตบสามารถขยายไลน์สินค้าได้ในอนาคต เนื่องจากน้ำตบเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับใช้ควบคู่กับเซรั่ม หรือครีมบำรุงอื่น ๆ ในขั้นตอนการบำรุงผิว

 

โรงงานรับผลิตน้ำตบ Pure Derima Laboratories มีขั้นตอนการผลิตน้ำตบอะไรบ้าง?

อยากมีแบรนด์น้ำตบเป็นของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องยาก โรงงานรับผลิตน้ำตบ Pure Derima Laboratories ของเรารับผลิตน้ำตบแบบ One Stop Service พร้อมช่วยดูแลการผลิตและสร้างแบรนด์ในทุกขั้นตอนสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ ซึ่งขั้นตอนในการผลิตน้ำตบ มีดังนี้

  1. เลือกผลิตภัณฑ์สูตรมาตรฐานผลิตน้ำตบ หรือสูตรพัฒนาของตัวเอง
  2. ทดลองสูตรจาก Catalog หรือสูตรพัฒนา และสรุปผลต่อผู้ขาย
  3. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์
  4. โรงงานรับผลิตน้ำตบจะจัดส่งใบเสนอราคาให้กับลูกค้า
  5. ลูกค้าชำระเงินมัดจำก่อนการผลิตน้ำตบ 50% ตามยอดในใบเสนอราคา
  6. โรงงานรับผลิตน้ำตบขอยื่นจดแจ้งเลขทะเบียน อย. ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า 
  7. ออกแบบโลโก้และฉลาก พร้อมทั้งให้ทางโรงงานรับผลิตน้ำตบตรวจสอบความถูกต้อง
  8. เริ่มกระบวนการขั้นตอนการผลิตน้ำตบ
  9. ลูกค้าชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50% เมื่อขั้นตอนการผลิตน้ำตบเสร็จสิ้น
  10. โรงงานรับผลิตน้ำตบจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า

 

น้ำตบ ถือเป็นไอเทมลับในการช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน เพราะนอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมเสริมสร้างเกราะป้องกันให้ผิวและ ยังช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนการบำรุง ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสกินแคร์อื่น ๆ ได้ดี ทำให้ในปัจจุบันน้ำตบได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กับสกินแคร์อื่น ๆ

สำหรับผู้ที่สนใจอยากสร้างแบรนด์น้ำตบ หรือผลิตน้ำตบแบรนด์ตัวเอง Pure Derima Laboratories เรารับผลิตน้ำตบพร้อมสร้างแบรนด์แบบครบวงจร สามารถเข้ามาปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Pure Derima Laboratories  Line : @purederima  Instagram : Purederima หรือ Tel : 02-285-4266 , 061-656-1449