ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด ให้ได้มาตรฐาน มีอะไรบ้าง? อยากมีแบรนด์ครีมกันแดดต้องรู้
อยากสร้างแบรนด์ครีมกันแดด แต่ไม่รู้ต้องเริ่มอย่างไร ? วันนี้ทาง เพียวเดอริมา (Pure Derima Laboratories) โรงงานรับผลิตครีมกันแดดที่ได้มาตรฐาน จะพาเจ้าของแบรนด์มือใหม่ไปทำความรู้จักกับ ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด ให้ได้มาตรฐาน มีอะไรบ้าง? อยากมีแบรนด์ครีมกันแดดต้องรู้ ก่อนที่จะเริ่มสร้างแบรนด์ให้ปัง
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด แบบ “ONE STOP SERVICE” ต้องที่ Pure Derima Laboratories
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด ขั้นตอนแรกที่ควรให้ความสำคัญ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ คือ การเลือกโรงงานรับผลิตครีมกันแดด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ เพราะคุณภาพสินค้า ความปลอดภัย และภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ล้วนขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นในธุรกิจครีมกันแดด เจ้าของแบรนด์มือใหม่ การเลือกโรงงานที่ให้บริการแบบครบวงจรหรือ One Stop Service จะช่วยลดความซับซ้อน ประหยัดเวลา และลดความยุ่งยากในการทำงานได้อย่างมาก
เพียวเดอริมา (Pure Derima Laboratories) เป็นโรงงานรับผลิตครีมกันแดดที่มาพร้อมบริการแบบ One Stop Service ที่พร้อมดูแลแบรนด์ของคุณตั้งแต่เริ่มต้น ช่วยให้เจ้าของแบรนด์มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีคุณภาพ ปลอดภัย และพร้อมออกสู่ตลาดอย่างมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของแบรนด์หน้าใหม่หรือมืออาชีพ เพียวเดอริมาจะช่วยดูแลแบรนด์ของคุณให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นคง ดังนี้
- เรามีบริการดูแลรับผลิตครีมกันแดดทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
- เรามีขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดที่มีมาตรฐานสากล มีบริการวิจัย คิดค้น และพัฒนาสูตรครีมกันแดดในแบบที่คุณต้องการ
- เรามีบริการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ พร้อมฉลากสินค้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้น่าจดจำ
- เรามีกระบวนการขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดที่มีความปลอดภัย เป็นระบบ และยังสามารถรองรับการรับผลิตครีมกันแดดได้สูงสุดถึง 10,000 ชิ้น/วัน ให้คุณได้รับสินค้าที่มีมาตรฐานตรงตามกำหนด
- เรามีบริการดูแลเอกสารการจดแจ้งขึ้นทะเบียน อย. และ Halal พร้อมเอกสารรับรองต่าง ๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์ครีมกันแดดของคุณ
- เรามีบริการวางแผนการทำธุรกิจ สำหรับผู้เริ่มต้นสร้างแบรนด์ โดยนักการตลาดมากประสบการณ์ทุกช่องทางการขาย ทำให้คุณสามารถขายสินค้าได้ทันทีที่ผลิตเสร็จ
มาตรฐานของโรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories มีอะไรบ้าง?
- มาตรฐาน ISO
โรงงานรับผลิตครีมกันแดดเรามี มาตรฐาน ISO เป็นมาตรฐานสากลที่ได้ยอมรับจากทั่วโลก มีเป้าหมายหลักคือการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร และช่วยวางแผน ระบบการจัดการ กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานขององค์กร หรือโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะโรงงานที่มีขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด ซึ่งทางโรงงาน Pure Derima Laboratories นั้นได้รับรองมาตรฐาน ISO 22716 : 2007 และ ISO 9001 : 2015
- มาตรฐาน ISO 22716 : 2007
ถือเป็นข้อกำหนดสำคัญสำหรับการผลิตเครื่องสำอางและสกินแคร์ รวมถึงโรงงานรับผลิตครีมกันแดด ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในด้านการจัดการระบบภายในองค์กร มาตรฐานนี้ช่วยให้โรงงานดำเนินงานได้อย่างมืออาชีพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวผลิตภัณฑ์และแบรนด์
- มาตรฐาน ISO 9001: 2015
เป็นมาตรฐานด้านระบบการจัดการคุณภาพ (Quality Management System – QMS) ที่มุ่งเน้นเพื่อช่วยให้องค์กรในทุกอุตสาหกรรม รวมถึงโรงงานผลิตครีมกันแดด ให้มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยมาตรฐานนี้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและยังสามารถส่งออกสินค้าได้อย่างมีคุณภาพ
- ASEAN Cosmetic Good Manufacturing Practice (GMP)
โรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories เราได้รับรองมาตรฐานจาก ASEAN Cosmetic Good Manufacturing Practice (GMP) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางและสกินแคร์ ที่กำหนดขึ้นสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และสนับสนุนการค้าเสรีในภูมิภาค ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับโรงงานรับผลิตครีมกันแดด ที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยให้กับแบรนด์ ทั้งยังให้ผลิตภัณฑ์นั้นสามารถส่งออกตีตลาดภายในอาเซียนได้
- มาตรฐาน Green industry
โรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories ของเราได้รับมาตรฐาน Green Industry หรือ อุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ช่วยรับรองธุรกิจ หรือโรงงานอุตสาหกรรม ว่าเป็นโรงงานที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับทางโรงงาน และช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้
- มาตรฐาน Halal
โรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories ได้รับรอง มาตรฐาน Halal ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญที่ใช้รับรองว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น ๆ ได้รับการผลิตและดำเนินการตามข้อกำหนดของศาสนาอิสลาม โดยให้ความสำคัญในเรื่อง ความสะอาด ความปลอดภัย และ การปฏิบัติตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด การมีมาตรฐาน Halal นอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวโรงงาน และตัวแบรนด์แล้วนั้น ยังช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มผู้บริโภคชาวมุสลิมทั่วโลกได้อีกด้วย
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด 10 ขั้นตอน แบบง่าย ๆ
ใครที่อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดด แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร? สร้างแบรนด์ครีมกันแดดได้ง่าย ๆ กับ Pure Derima Laboratories กับ 10 ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดที่เราพร้อมดูแลคุณแบบครบวงจร ดังนี้
- เลือกผลิตภัณฑ์สูตรมาตรฐาน หรือสูตรพัฒนาของตัวเอง
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด ขั้นตอนแรก คือ การเลือกสูตรครีมกันแดดที่เหมาะสม โดยทางโรงงานของเรานั้นมีบริการพัฒนาสูตรให้กับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเลือกสูตรครีมกันแดดที่โรงงานของเรามีอยู่แล้ว หรือคิดค้นสูตรใหม่ร่วมกับนักพัฒนาสูตรได้ เพียงแจ้งรายละเอียดที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะเนื้อครีมกันแดด สารสกัดที่สนใจ คุณสมบัติของครีมกันแดดที่ต้องการ หรือสามารถส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ชื่นชอบมาให้กับทางโรงงาน เพื่อพัฒนาสูตรตัวอย่างให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
- ทดลองสูตรจาก Catalog หรือสูตรพัฒนา และสรุปผลต่อผู้ขาย
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด การคิดค้น การวิจัย การพัฒนาสูตร และการทดลอง ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญอย่างมากในการสร้างแบรนด์ ทางโรงงาน Pure Derima Laboratories ของเรานั้นก็พร้อมดูแลคุณด้วยทีมพัฒนา และวิจัยผลิตภัณฑ์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาสูตรครีมกันแดด โดยทางทีมวิจัยจะทำหน้าที่คิดค้นสูตร พัฒนาสูตร และทดลองก่อนสั่งผลิต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และตรงตามความต้องการของลูกค้า และหากผ่านขั้นตอนการทดสอบยืนยันสูตรกับทางลูกค้าเรียบร้อยแล้วนั้น ทางโรงงานก็จะเริ่มเข้ากระบวนการขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดตามขั้นตอนต่อไป
- เลือกบรรจุภัณฑ์ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์
เมื่อลูกค้ายืนยันสูตรกับทางโรงงานแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปก่อนที่จะเริ่มผลิตลูกค้าจะต้องทำการเลือกบรรจุภัณฑ์ หรือ Packaging ของสินค้าให้เรียบร้อย จากนั้นทางทีมพัฒนาจะทำการทดสอบว่าบรรจุภัณฑ์ที่เลือกนั้นมีความเข้ากันกับลักษณะของผลิตภัณฑ์หรือไม่ ซึ่งการเลือกบรรจุภัณฑ์นั้นทางโรงงานของเราจะมีรูปแบบบรรจุภัณฑ์สำเร็จรูปให้คุณได้เลือก หรือทางลูกค้าจะทำการออกแบบขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ครีมกันแดดของลูกค้าได้
- โรงงานรับผลิตครีมกันแดดจะจัดส่งใบเสนอราคาให้กับลูกค้า
หลังจากเลือกสูตรครีมกันแดด บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมแล้วนั้น ทางโรงงานจะมีการพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการรับผลิตครีมกันแดด จากนั้นก่อนเริ่มขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดจะมีการส่งใบเสนอราคา พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดให้กับลูกค้าอย่างละเอียด
- ลูกค้าชำระเงินมัดจำก่อนการผลิต 50% ตามยอดในใบเสนอราคา
หลังจากได้รับใบเสนอราคาแล้ว ลูกค้าจะต้องชำระมัดจำก่อนเริ่มขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดจำนวนเงิน 50% ของยอดการผลิตทั้งหมด ตามเงื่อนไขในใบเสนอราคา เพื่อที่ทางโรงงานจะเริ่มการรับผลิตครีมกันแดดในขั้นตอนต่อไป
- โรงงานรับผลิตครีมกันแดด ขอยื่นจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของลูกค้า
เมื่อรับมัดจำครบตามจำนวนแล้ว ทางโรงงานรับผลิตครีมกันแดดจะดำเนินการขออนุญาตยื่นจดแจ้งเลขทะเบียน อย. และเครื่องหมายฮาลาล (Halal) ให้กับผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ของลูกค้า โดยปกติแล้วการขอเอกสารรับรองนั้นจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน ในการทำการ
- ออกแบบโลโก้และฉลาก พร้อมทั้งให้ทางโรงงานรับผลิตครีมกันแดด ตรวจสอบความถูกต้อง
หลังจากการยื่นขอจดแจ้งเลขทะเบียนอย. และเครื่องหมายฮาลาลเรียบร้อยแล้วนั้น จะเป็นขั้นตอนการออกแบบโลโก้ของแบรนด์ครีมกันแดด ซึ่งลูกค้าสามารถนำโลโก้ และฉลากสินค้าของแบรนด์ที่ถูกต้องนำมาให้ทางโรงงาน เพื่อนำไปเข้าสู่ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดขั้นต่อไป
- เริ่มกระบวนการขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด
เมื่อเลือกสูตรครีมกันแดด บรรจุภัณฑ์ ออกแบบโลโก้ และฉลากสินค้าเรียบร้อยแล้วนั้น ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดต่อไป จะเป็นการรับผลิตครีมกันแดดพร้อมบรรจุครีมลงบรรจุภัณฑ์ โดยส่วนมากระยะเวลาในขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดนั้นจะอยู่ประมาณ 14-20 วันทำการ ทั้งนี้ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับจำนวนของผลิตภัณฑ์
- ลูกค้าชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50% เมื่อขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดเสร็จสิ้น
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดแล้ว ทางทีมพัฒนาจะมีการตรวจดูคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และตรวจสอบจำนวนของผลิตภัณฑ์ว่าครบหรือไม่ จากนั้นทางโรงงานจะขอให้ลูกค้าชำระเงินมัดจำในส่วนที่เหลือ 50% ก่อนนำจัดส่ง
- จัดส่งสินค้าให้ลูกค้า
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด ขั้นตอนสุดท้ายทางโรงงานจะทำการส่งมอบผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดทั้งหมดให้กับทางลูกค้าอย่างปลอดภัย เป็นอันเสร็จขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด : การพัฒนาสูตรครีมกันแดด มีกี่แบบ ?
หนึ่งในขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด คือ การพัฒนาสูตร ซึ่งการพัฒนาสูตรของ Pure Derima Laboratories มีหลากหลายรูปแบบให้ลูกค้านั้นได้เลือก เพื่อความสะดวกสำหรับเจ้าของแบรนด์
- การพัฒนาสูตรแบบ Self-Invented Formula เป็นการพัฒนาสูตรครีมกันแดดตามแบบมาตรฐานโรงงาน โดยวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถควบคุมการผลิตได้ และยังควบคุมงบประมาณได้อีกด้วย เนื่องจากสูตรมาตรฐานโรงงานนั้นมีการคิดค้น และพัฒนาเรียบร้อยให้คุณได้เลือกมากกว่า 100 สูตร ทำให้ไม่เสียเวลา หรือเสียค่าใช้จ่ายในการทดลองเพิ่ม จึงเหมาะสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่อยากจะควบคุมค่าใช้จ่าย และต้องการสูตรครีมกันแดดที่มีมาตรฐาน
- การพัฒนาสูตรแบบ Benchmark Formula เป็นการพัฒนาสูตรครีมกันแดดที่อ้างอิงจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่คุณมีความสนใจ หรือเรียกว่าการแกะสูตร โดยทางทีมพัฒนาจะทำการศึกษาส่วนผสม และคุณสมบัติพิเศษของผลิตภัณฑ์ที่คุณชื่นชอบ เพื่อนำมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ของลูกค้า
- การพัฒนาสูตรแบบ Private Formula Development เป็นการพัฒนาสูตรครีมกันแดดจากสูตรเดิมของลูกค้า โดยทางทีมวิจัยจะทำการพัฒนาปรับปรุงสูตรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น โดยยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ เหมาะสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ดีขึ้น
- การพัฒนาสูตรแบบ Innovative Formula อีกหนึ่งรูปแบบการพัฒนาสูตรครีมกันแดดที่ได้รับความสนใจ คือ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการนำสารสกัดวัตถุดิบใหม่ ๆ มาใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้ามีความโดดเด่น และความพิเศษขึ้น ซึ่งการพัฒนาสูตรวิธีนี้จะช่วยสร้างความสนใจให้กับตัวแบรนด์ และสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้ดี
ทั้งนี้ การพัฒนาสูตรครีมกันแดดนั้น หากต้องการพัฒนาสูตรที่มีความเฉพาะตัวของแบรนด์ หรือต้องการพัฒนาสูตรใหม่ ทางลูกค้าจะต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณลูกค้าต้องการ เช่น สารสกัด เนื้อสัมผัส คุณสมบัติพิเศษ หรือตัวอย่างของสกินแคร์ที่ต้องการ (ถ้ามี) เพื่อให้ทางทีมวิจัยพัฒนาของโรงงานนั้นได้มีเวลาในการพัฒนาสูตร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด
ไขข้อสงสัย SPF และ PA คืออะไร แตกต่างกันไหม?
SPF และ PA เป็นตัวชี้วัดความสามารถของผลิตภัณฑ์กันแดดในการป้องกันผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดดและลดความเสี่ยงต่อปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และมะเร็งผิวหนัง
ก่อนจะเริ่มขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ครีมกันแดดควรรู้ คือ ความแตกต่างระหว่าง SPF และ PA ในการป้องกันรังสี UV ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของครีมกันแดด แล้ว SPF กับ PA นั้นแตกต่างกันไหม? ต้องบอกเลยว่าทั้ง SPF และ PA นั้นมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- SPF คือ ค่าความสามารถในการป้องกันรังสี UVB โดยจะเริ่มตั้งแต่ค่า SPF 8 ถึง SPF 50+
- PA คือ ค่าประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA โดยจะเริ่มตั้งแต่ค่า PA + ถึง PA ++++
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด : สารในครีมกันแดดมีอะไรบ้าง ?
- สารกันแดด (Sunscreen Agents) ซึ่งสารกันแดด ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญหลักของครีมกันแดด โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- สารกันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreens) เป็นสารกันแดดที่มีส่วนผสมของคาร์บอน มีหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ทำงานโดยการดูดซับรังสี UV เข้ามาในตัวสารกันแดด และเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนให้ซึมเข้าผิวแทน ทำให้ผิวหนังไม่ได้รับรังสียูวี
สารกันแดดแบบ Chemical Sunscreens ที่พบบ่อย เช่น Ethylhexyl Salicylate, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Octocrylene, Ethylhexyl Triazone หรือ Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate
- สารกันแดดแบบกายภาพ (Physical Sunscreens) เป็นสารกันแดดจากธรรมชาติ โดยไม่มีส่วนผสมของสารคาร์บอน ทำให้ไม่อุดตันผิว มีหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ทำงานโดยสะท้อน หรือกระจายรังสี UV ออกไปจากผิว
สารกันแดดแบบ Physical Sunscreens ที่พบบ่อย เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide
- สารให้ความชุ่มชื้น (Moisturizers) คือ สารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยลดความแห้งกร้านของผิวได้ โดยสารที่นิยมใช้ในครีมกันแดด เช่น Hyaluronic Acid, Glycerin หรือ Aloe Vera Extract
- สารบำรุงผิว (Skin Care Ingredients) คือ สารที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี ซึ่งในครีมกันแดดก็มีสารบำรุงผิวที่นิยมใช้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Vitamin E, Niacinamide, Vitamin C หรือ Green Tea Extract
- สารช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัส (Texture Enhancers) คือ สารที่ช่วยปรับเนื้อสัมผัสของครีมให้มีความเหมาะสมกับผิว โดยช่วยทำให้เนื้อครีมมีความลื่น บางเบา เกลี่ยได้ง่าย และยังช่วยเพิ่มความหนืดของครีมกันแดดได้
- สารอื่น ๆ ในครีมกันแดดบางชนิดอาจจะมีสารอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของครีมกันแดด หรือช่วยยืดอายุครีมกันแดด เช่น สารกันเสีย (Preservatives) ,สารช่วยป้องกันน้ำและเหงื่อ (Water-Resistant Agents), สารแต่งกลิ่นและสี (Optional Ingredients) และสารป้องกันการระคายเคือง (Anti-Irritants) ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด : เลือก 7 สูตรครีมกันแดดตัวดังจาก Pure Derima
โรงงานรับผลิตครีมกันแดด Pure Derima Laboratories เรามีทีมนักวิจัยและพัฒนาสูตรที่เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูง ที่ทำงานร่วมกับแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังโดยตรง โดยได้คิดค้นและพัฒนาสูตรครีมกันแดด เพื่อช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และรังสี UVB และช่วยแก้ปัญหาผิวในทุกสภาพผิว เราพร้อมให้บริการสร้างแบรนด์ครีมกันแดดด้วย 7 สูตรที่คุณสามารถเลือกเป็นเจ้าของแบรนด์ได้เอง ดังนี้
- Matte Fluid SPF 30 PA+++
เป็นครีมกันแดดผสมรองพื้น ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ รังสี UVB มีเนื้อที่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ทำให้เกิดการอุดตันผิว จึงทำให้สามารถใช้แทนรองพื้นได้ โดยไม่ทำให้ผิวเป็นคราบ ผิวดูเรียบเนียน พร้อมช่วยควบคุมความมันระหว่างวันได้
- Silky Smooth Foundation Sunscreen SPF 50 PA+++
เป็นครีมกันแดดผสมรองพื้น ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ รังสี UVB ด้วยสารสกัด Silk Protein ที่ช่วยเพิ่มความเนียนนุ่มให้ผิว และทำให้เนื้อครีมมีความบางเบา เรียบเนียนไปกับผิว ทำให้สามารถใช้แทนรองพื้นได้ ทั้งยังช่วยลดความหมองคล้ำของผิว พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- Milky Sunscreen Lotion SPF 50 PA+++
เป็นโลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนม ที่มีความบางเบา อ่อนโยนต่อผิว ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ รังสี UVB ช่วยควบคุมความมัน และเหมาะกับผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย และผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น
- Sunscreen Cream SPF 50 PA+++
เป็นครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ รังสี UVB โดยเนื้อครีมมีความบางเบา นุ่มลื่น สบายผิว และยังสามารถใช้เตรียมผิวก่อนแต่งหน้าได้ ไม่ทำให้หนักหน้าเพิ่ม
- Sunscreen Cream (Soft Beige) SPF 50 PA+++ BB
เป็นครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจาก รังสี UVA และ รังสี UVB โดยสูตรนี้จะมีเนื้อครีมที่ละเอียด บางเบา สบายผิว พร้อมช่วยปรับสภาพผิวและเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า จึงสามารถใช้แทนรองพื้นได้
- Anti-pollution Sunscreen SPF 50 PA+++
เป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบา ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ รังสี UVB และช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะฝุ่น ควัน ต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผิวเกิดการอักเสบ เนื้อบางเบา สบายผิว พร้อมบำรุงผิวจากสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย
- Premium Silky Smooth Sunscreen SPF 50 PA+++
เป็นครีมกันแดดสูตรพิเศษ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA , รังสี UVB และปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่ทำลายผิวได้ถึงระดับผิวชั้นลึก พร้อมช่วยปรับสีผิวให้มีความสม่ำเสมอ ให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดดจาก Pure Derima การเลือกสูตรครีมกันแดด เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์ครีมกันแดด การเลือกสูตรมาตรฐานโรงงาน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และยังได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอีกด้วย
รู้ก่อนเริ่ม สร้างแบรนด์ครีมกันแดดอย่างไรให้ปัง
หากต้องการทำแบรนด์ครีมกันแดด เจ้าของแบรนด์มือใหม่ควรรู้อะไรบ้าง ? มัดรวมทริคน่ารู้ก่อนเริ่มสร้างแบรนด์ครีมกันแดด เพื่อช่วยให้คุณสามารถสร้างแบรนด์ได้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวแบรนด์ และสามารถประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ครีมกันแดด
- เลือกสูตรครีมกันแดดให้ตอบโจทย์
เลือกสูตรครีมกันแดดให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ควรเลือกผลิตครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสม โดยส่วนมากในประเทศไทยผู้บริโภคมักจะนิยมเลือกซื้อครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป และมีค่า PA++ หรือมากกว่า ซึ่งเหมาะกับการปกป้องผิวจากรังสี UVB และรังสี UVA เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแสงแดดแรงและสภาพอากาศร้อน ดังนั้นควรเลือกผลิตครีมกันแดดที่เหมาะกับทุกสภาพผิวของคนไทย เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
- พัฒนาเนื้อครีมกันแดดให้มีความหลากหลาย
ผู้บริโภคมักเลือกครีมกันแดดที่สามารถใช้งานได้ตลอดวัน ไม่หลุดง่าย แม้เหงื่อออก ครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติเกาะผิวได้ดีและติดทน มีเนื้อบางเบา ไม่อุดตัน จะได้รับความนิยมสูง ซึ่งในปัจจุบันก็มีครีมกันแดดที่ออกมาหลายเนื้อสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดดแบบโลชั่น ครีมกันแดดแบบเจล ครีมกันแดดแบบสเปรย์ หรือครีมกันแดดแบบแท่ง เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกตามความชอบ
- บรรจุภัณฑ์ครีมกันแดดต้องโดดเด่นและใช้งานสะดวก
หากต้องการผลิตครีมกันแดดให้มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัย ควรแจ้งรายละเอียดบนบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ค่า SPF ค่า PA การป้องกันรังสี UVA/UVB หรือ คุณสมบัติพิเศษ เช่น การกันน้ำ, ปราศจากน้ำมัน หรือเหมาะสำหรับผิวแบบไหน เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ครีมกันแดดให้โดดเด่นและใช้งานสะดวก ครีมกันแดดที่มีขนาดกะทัดรัด เช่น หลอดแบบบีบ ขวดปั๊ม หรือแบบแท่ง จะทำให้ผู้บริโภคเลือกมากกว่า เนื่องจากสามารถพกพาได้ง่าย ทั้งนี้การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามด้วยก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวแบรนด์อีกด้วย
- ให้ความสำคัญกับคุณภาพ และความปลอดภัยของครีมกันแดด
เลือกสารกันแดดที่ปลอดภัยได้รับการรับรอง ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และครีมกันแดดควรผ่านการทดสอบความคงตัว (Stability Test) เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จะไม่เสื่อมสภาพง่าย และผ่านการทดสอบการระคายเคือง (Patch Test) เพื่อให้มั่นใจว่าอ่อนโยนต่อผิว รวมถึงการเลือกมาตรฐานของโรงงานที่รับผลิตครีมกันแดดควรผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น GMP, ISO และ อย. เพื่อความน่าเชื่อถือของตัวแบรนด์
- วิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมสร้างจุดขายที่แตกต่าง
การวิเคราะห์ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่าง ครีมกันแดด ในประเทศไทย จะช่วยทำให้คุณสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด และสร้างแบรนด์ครีมกันแดดให้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งควรเลือกวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายหลักว่านิยมใช้ หรือมีความชื่นชอบครีมกันแดดแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัมผัส ความติดทน ความบางเบา สารสกัด คุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ หรือแม้แต่ปัญหาผิวของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อจะช่วยทำให้คุณสามารถสร้างจุดขายที่แตกต่าง และสร้างเอกลักษณ์ความโดดเด่นให้กับแบรนด์ครีมกันแดดได้
ขั้นตอนการรับผลิตครีมกันแดด เป็นสิ่งที่ผู้อยากจะเริ่มสร้างแบรนด์ หรือเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดดมือใหม่ควรทำควรทำความเข้าใจ เนื่องจากเป็นส่วนที่จะต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ตั้งแต่การเลือกโรงงานที่มีมาตรฐาน การเลือกสูตร รวมถึงการควบคุมการผลิตที่มีความละเอียดสูง ซึ่งทาง Pure Derima Laboratories ที่เราพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ช่วยดูแลคุณตั้งแต่เริ่มสร้างแบรนด์ ทำให้การสร้างแบรนด์ครีมกันแดดของคุณง่ายขึ้น