รวม 9 ประโยชน์ของนมผึ้ง (Royal Jelly) อุดมด้วยสารอาหารต่าง ๆ ดีต่อสุขภาพ 

นมผึ้ง
นมผึ้ง

ในปัจจุบัน ธุรกิจสกินแคร์ในท้องตลาดมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง เนื่องจากทุกคนสามารถมีแบรนด์สกินแคร์เป็นของตัวเองได้อย่างง่าย ๆ เพียงติดต่อโรงงานรับผลิตครีม เลือกสูตรครีมที่สนใจ ก็สามารถสร้างแบรนด์เป็นของตนเองได้แล้ว ดังนั้น ถ้าหากต้องการให้สกินแคร์มีความโดดเด่นในท้องตลาด เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ส่วนผสมที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยนมผึ้งถือว่าเป็นส่วนผสมหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก 

ด้วยนมผึ้ง คือ สารอาหารที่ผลิตจากผึ้งงาน อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญนานาชนิด โดยนมผึ้งมีประโยชน์ในการช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เต่งตึง มีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย

นมผึ้ง (Royal Jelly) คืออะไร?

Royal Jelly หรือ นมผึ้ง คือ สารอาหารที่ผลิตจากต่อมไฮโปฟาริงซ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน ถือว่าเป็นอาหารพิเศษสำหรับผึ้งนางพญาและตัวอ่อนผึ้ง โดยผึ้งนางพญาจะกินนมผึ้งตลอดชีวิต เพราะนมผึ้งช่วยให้ผึ้งนางพญามีลำตัวขนาดใหญ่ อายุยืนยาว และยังสามารถวางไข่ได้มากกว่าผึ้งตัวอื่น ที่สำคัญมีอายุขัยได้นานถึง 5 ปี ซึ่งลักษณะนมผึ้งมีลักษณะเป็นครีมสีขาวคล้ายน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย

โดยส่วนประกอบหลักที่อยู่ในนมผึ้ง ได้แก่

  • น้ำ ประมาณ 60-70%
  • โปรตีน ประมาณ 10-18% ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย 10 ชนิด
  • คาร์โบไฮเดรต ประมาณ 10-15% ประกอบไปด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส
  • ไขมัน ประมาณ 3-6% ประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6
  • วิตามิน ได้แก่ วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค
  • เกลือแร่ ได้แก่ โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี

ทำความรู้จักกับประโยชน์ของนมผึ้งให้มากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของนมผึ้ง

นมผึ้งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะทั้งภายในและภายนอก โดยประโยชน์ของนมผึ้งนั้นครอบคลุมเป็นอย่างมาก ดังต่อไปนี้

ต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบ

นมผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงวิตามินประเภทต่าง ๆ ที่ช่วยปกป้องเซลล์ อีกทั้งยังสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย พร้อมทั้งมีสารต้านการอักเสบหลายชนิด ซึ่งช่วยลดการอักเสบในข้อเข่า ปอด และสมองของผู้ป่วยในโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคข้ออักเสบ โรคหอบหืด และโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น

ช่วยซ่อมแซมและสมานแผลผิวหนัง

นมผึ้งมีสรรพคุณในการช่วยซ่อมแซมและสมานแผลผิวหนัง โดยจะลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ พร้อมสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย รักษาความชุ่มชื้นของผิว และช่วยลดรอยแผลเป็น ไม่ว่าจะเป็นแผลไฟไหม้หรือแผลเรื้อรังก็ตาม

ชะลอวัย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง

นมผึ้งซ่อมแซมผิวหนัง

นมผึ้งช่วยชะลอวัย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง เพราะนมผึ้งมีสารหลายชนิดที่ช่วยบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ทั้ง กรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือจะกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่ช่วยป้องกันผิวแห้งและรักษาความชุ่มชื้นของผิว อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง อุดมด้วยวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและชะลอความแก่ 

ปรับความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย

ประโยชน์ของนมผึ้งอีกข้อ คือ ช่วยปรับความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เพราะทั้งกรดอะมิโน, วิตามิน, แร่ธาตุ และกรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ทำให้เกิดการปรับสมดุลด้วยการสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมไร้ท่อ รวมถึงฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

นมผึ้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยเฉพาะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เพราะนมผึ้งมีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) รวมถึงลดความดันโลหิต ลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ นอกจากนี้นมผึ้งยังช่วยสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวภายในร่างกายอีกด้วย

ลดระดับไขมันสะสม

นมผึ้งช่วยลดระดับไขมันสะสมในร่างกาย โดยนมผึ้งจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ให้ลดลง แล้วเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) นอกจากนี้ นมผึ้งยังกระตุ้นการเผาผลาญและลดการสะสมไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการเผาผลาญไขมัน จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน

ควบคุมและดักจับน้ำตาล

นมผึ้งมีสรรพคุณในการควบคุมและดักจับน้ำตาล โดยแต่ละสารอาหารจะทำหน้าที่แตกต่างกัน

  • กรดอะมิโนจะช่วยสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • วิตามินบีรวม, วิตามินซี, วิตามินอี และวิตามินเคในนมผึ้งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • แร่ธาตุต่าง ๆ ในนมผึ้งที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างสมดุล ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • กรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ จึงลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน

บำรุงสมองและระบบประสาท

นมผึ้งมีสารหลายชนิดที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท เช่น กรดอะมิโนที่ช่วยสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของสมอง ส่งผลให้เซลล์ประสาทเจริญเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหายโดยวิตามินชนิดต่าง ๆ และแร่ธาตุที่ทำให้ระบบประสาททำงานได้อย่างสมดุล โดยมีกรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ในการบำรุงความจำ

ช่วยชะลอ และลดอาการวัยทอง

ประโยชน์ข้อสุดท้ายของนมผึ้งที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ มีสรรพคุณในการชะลอ และลดอาการวัยทอง เช่น อาการปวดหลัง อาการความจำเสื่อม เป็นต้น นอกจากจะช่วยชะลอและลดอาการวัยทองแล้ว นมผึ้งยังมีสารอาหารสำคัญอย่างกรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ช่วยให้ร่างกายดูอ่อนเยาว์ และยังประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดธรรมชาติที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ป้องกันภาวะกระดูกพรุนอีกด้วย

สารอาหารสำคัญที่มีอยู่ในนมผึ้ง

ตามที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นนมผึ้งมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อร่างกาย โดยนมผึ้งอุดมด้วยสารอาหารสำคัญอย่างหลากหลาย ได้แก่

  1. มีโปรตีนสูงถึง 18% ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็น 10 ชนิด ช่วยเสริมสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะ Major Royal Jelly Protein (MRJP) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีอยู่ในนมผึ้งเท่านั้น 
  2. วิตามินบีสูง เพราะมีทั้งวิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี9 และบี 12 ช่วยบำรุงระบบประสาทและระบบเผาผลาญ
  3. วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย
  4. แร่ธาตุหลากหลายชนิด เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
  5. กรดอะมิโนอื่น ๆ เช่น โปรลีน ไลซีน ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ชะลอวัย
  6. กรดไขมัน 10-HDA (trans-10-Hydroxy-2-decenoic acid และ 10-Hydroxydecanoic acid) ซึ่งมีเฉพาะในนมผึ้ง ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน บำรุงสมอง และต้านมะเร็ง
  7. สารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายหรือถูกทำลาย
  8. สารประกอบอื่น ๆ เช่น อะเซทิลโคลีน ช่วยบำรุงสมองและความจำ

ข้อควรระวังสำหรับการรับประทานนมผึ้ง

สำหรับผู้ต้องการรับประทานนมผึ้ง จำเป็นต้องทราบข้อควรระวัง ดังต่อไปนี้

  • นมผึ้งเป็นสารก่อภูมิแพ้ แม้จะพบได้น้อย แต่ก็ควรทดสอบการแพ้ โดยการลองรับประทานในปริมาณน้อยก่อน และไม่ควรลองทานตอนท้องว่าง
  • ควรรับประทานนมผึ้งในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกินวันละ 3 กรัม หรือตามปริมาณที่แต่ละยี่ห้อแนะนำ และไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป
  • เลือกซื้อนมผึ้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • การรับประทานนมผึ้งอาจพบผลข้างเคียง เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ได้
  • ควรเก็บรักษานมผึ้งในตู้เย็น อุณหภูมิ 2-8 องศา 
  • ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานนมผึ้ง เพราะอาจส่งผลต่อยาบางชนิด เช่น ยาวาร์ฟาริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดอื่น ๆ 

นมผึ้ง ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ครีมยอดนิยมในปัจจุบัน

นมผึ้ง 2024

นมผึ้ง คือ สารอาหารที่ผลิตจากต่อมไฮโปฟาริงซ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน มีลักษณะเป็นครีมสีขาวคล้ายน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย โดยนมผึ้งมีประโยชน์หลากหลาย ทั้งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์ ปรับสมดุลและเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เพราะอุดมด้วยสารอาหารสำคัญ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน รวมถึงสารอาหารบางอย่างที่มีเฉพาะในนมผึ้งเท่านั้น อย่าง Major Royal Jelly Protein (MRJP) และกรดไขมัน 10-HDA 

จะเห็นได้ว่านมผึ้งมีสรรพคุณมากมาย จึงทำให้นมผึ้งเป็นสารสกัดสำคัญในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จะช่วยให้สกินแคร์ภายใต้แบรนด์มีความโดดเด่น สามารถแข่งขันในตลาดได้ ดังนั้น จึงต้องเลือกทำธุรกิจร่วมกับโรงงานรับผลิตครีมที่ใช้นมผึ้งเป็นส่วนผสมในสกินแคร์อย่างโรงงาน Pure Derima Laboratories โรงงานรับผลิตครีม สกินแคร์ และเครื่องสำอางแบบครบวงจร เรารับผลิตแบบ OEM ด้วยมาตรฐานในระดับสากล หากใครสนใจสร้างแบรนด์ครีมเป็นของตัวเอง สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้