ในปัจจุบัน ธุรกิจสกินแคร์ในท้องตลาดมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง เนื่องจากทุกคนสามารถมีแบรนด์สกินแคร์เป็นของตัวเองได้อย่างง่าย ๆ เพียงติดต่อโรงงานรับผลิตครีม เลือกสูตรครีมที่สนใจ ก็สามารถสร้างแบรนด์เป็นของตนเองได้แล้ว ดังนั้น ถ้าหากต้องการให้สกินแคร์มีความโดดเด่นในท้องตลาด เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ส่วนผสมที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยนมผึ้งถือว่าเป็นส่วนผสมหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ด้วยนมผึ้ง คือ สารอาหารที่ผลิตจากผึ้งงาน อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญนานาชนิด โดยนมผึ้งมีประโยชน์ในการช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เต่งตึง มีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย
นมผึ้ง (Royal Jelly) คืออะไร?
Royal Jelly หรือ นมผึ้ง คือ สารอาหารที่ผลิตจากต่อมไฮโปฟาริงซ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน ถือว่าเป็นอาหารพิเศษสำหรับผึ้งนางพญาและตัวอ่อนผึ้ง โดยผึ้งนางพญาจะกินนมผึ้งตลอดชีวิต เพราะนมผึ้งช่วยให้ผึ้งนางพญามีลำตัวขนาดใหญ่ อายุยืนยาว และยังสามารถวางไข่ได้มากกว่าผึ้งตัวอื่น ที่สำคัญมีอายุขัยได้นานถึง 5 ปี ซึ่งลักษณะนมผึ้งมีลักษณะเป็นครีมสีขาวคล้ายน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย
โดยส่วนประกอบหลักที่อยู่ในนมผึ้ง ได้แก่
- น้ำ ประมาณ 60-70%
- โปรตีน ประมาณ 10-18% ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย 10 ชนิด
- คาร์โบไฮเดรต ประมาณ 10-15% ประกอบไปด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส
- ไขมัน ประมาณ 3-6% ประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6
- วิตามิน ได้แก่ วิตามินบีรวม วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค
- เกลือแร่ ได้แก่ โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี
ทำความรู้จักกับประโยชน์ของนมผึ้งให้มากยิ่งขึ้น
นมผึ้งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะทั้งภายในและภายนอก โดยประโยชน์ของนมผึ้งนั้นครอบคลุมเป็นอย่างมาก ดังต่อไปนี้
ต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบ
นมผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงวิตามินประเภทต่าง ๆ ที่ช่วยปกป้องเซลล์ อีกทั้งยังสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย พร้อมทั้งมีสารต้านการอักเสบหลายชนิด ซึ่งช่วยลดการอักเสบในข้อเข่า ปอด และสมองของผู้ป่วยในโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคข้ออักเสบ โรคหอบหืด และโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น
ช่วยซ่อมแซมและสมานแผลผิวหนัง
นมผึ้งมีสรรพคุณในการช่วยซ่อมแซมและสมานแผลผิวหนัง โดยจะลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ พร้อมสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย รักษาความชุ่มชื้นของผิว และช่วยลดรอยแผลเป็น ไม่ว่าจะเป็นแผลไฟไหม้หรือแผลเรื้อรังก็ตาม
ชะลอวัย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง
นมผึ้งช่วยชะลอวัย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง เพราะนมผึ้งมีสารหลายชนิดที่ช่วยบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ทั้ง กรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือจะกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่ช่วยป้องกันผิวแห้งและรักษาความชุ่มชื้นของผิว อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง อุดมด้วยวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและชะลอความแก่
ปรับความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย
ประโยชน์ของนมผึ้งอีกข้อ คือ ช่วยปรับความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เพราะทั้งกรดอะมิโน, วิตามิน, แร่ธาตุ และกรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ทำให้เกิดการปรับสมดุลด้วยการสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของต่อมไร้ท่อ รวมถึงฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
นมผึ้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยเฉพาะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ เพราะนมผึ้งมีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) รวมถึงลดความดันโลหิต ลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ นอกจากนี้นมผึ้งยังช่วยสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวภายในร่างกายอีกด้วย
ลดระดับไขมันสะสม
นมผึ้งช่วยลดระดับไขมันสะสมในร่างกาย โดยนมผึ้งจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ให้ลดลง แล้วเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) นอกจากนี้ นมผึ้งยังกระตุ้นการเผาผลาญและลดการสะสมไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการเผาผลาญไขมัน จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน
ควบคุมและดักจับน้ำตาล
นมผึ้งมีสรรพคุณในการควบคุมและดักจับน้ำตาล โดยแต่ละสารอาหารจะทำหน้าที่แตกต่างกัน
- กรดอะมิโนจะช่วยสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิตามินบีรวม, วิตามินซี, วิตามินอี และวิตามินเคในนมผึ้งช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แร่ธาตุต่าง ๆ ในนมผึ้งที่ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างสมดุล ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ จึงลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
บำรุงสมองและระบบประสาท
นมผึ้งมีสารหลายชนิดที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท เช่น กรดอะมิโนที่ช่วยสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการทำงานของสมอง ส่งผลให้เซลล์ประสาทเจริญเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหายโดยวิตามินชนิดต่าง ๆ และแร่ธาตุที่ทำให้ระบบประสาททำงานได้อย่างสมดุล โดยมีกรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ในการบำรุงความจำ
ช่วยชะลอ และลดอาการวัยทอง
ประโยชน์ข้อสุดท้ายของนมผึ้งที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ มีสรรพคุณในการชะลอ และลดอาการวัยทอง เช่น อาการปวดหลัง อาการความจำเสื่อม เป็นต้น นอกจากจะช่วยชะลอและลดอาการวัยทองแล้ว นมผึ้งยังมีสารอาหารสำคัญอย่างกรดไขมันชนิดพิเศษ 10-HDA ช่วยให้ร่างกายดูอ่อนเยาว์ และยังประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดธรรมชาติที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ป้องกันภาวะกระดูกพรุนอีกด้วย
สารอาหารสำคัญที่มีอยู่ในนมผึ้ง
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นนมผึ้งมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อร่างกาย โดยนมผึ้งอุดมด้วยสารอาหารสำคัญอย่างหลากหลาย ได้แก่
- มีโปรตีนสูงถึง 18% ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็น 10 ชนิด ช่วยเสริมสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะ Major Royal Jelly Protein (MRJP) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีอยู่ในนมผึ้งเท่านั้น
- วิตามินบีสูง เพราะมีทั้งวิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี9 และบี 12 ช่วยบำรุงระบบประสาทและระบบเผาผลาญ
- วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย
- แร่ธาตุหลากหลายชนิด เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
- กรดอะมิโนอื่น ๆ เช่น โปรลีน ไลซีน ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ชะลอวัย
- กรดไขมัน 10-HDA (trans-10-Hydroxy-2-decenoic acid และ 10-Hydroxydecanoic acid) ซึ่งมีเฉพาะในนมผึ้ง ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน บำรุงสมอง และต้านมะเร็ง
- สารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายหรือถูกทำลาย
- สารประกอบอื่น ๆ เช่น อะเซทิลโคลีน ช่วยบำรุงสมองและความจำ
ข้อควรระวังสำหรับการรับประทานนมผึ้ง
สำหรับผู้ต้องการรับประทานนมผึ้ง จำเป็นต้องทราบข้อควรระวัง ดังต่อไปนี้
- นมผึ้งเป็นสารก่อภูมิแพ้ แม้จะพบได้น้อย แต่ก็ควรทดสอบการแพ้ โดยการลองรับประทานในปริมาณน้อยก่อน และไม่ควรลองทานตอนท้องว่าง
- ควรรับประทานนมผึ้งในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรเกินวันละ 3 กรัม หรือตามปริมาณที่แต่ละยี่ห้อแนะนำ และไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป
- เลือกซื้อนมผึ้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- การรับประทานนมผึ้งอาจพบผลข้างเคียง เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ได้
- ควรเก็บรักษานมผึ้งในตู้เย็น อุณหภูมิ 2-8 องศา
- ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานนมผึ้ง เพราะอาจส่งผลต่อยาบางชนิด เช่น ยาวาร์ฟาริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดอื่น ๆ
นมผึ้ง ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ครีมยอดนิยมในปัจจุบัน
นมผึ้ง คือ สารอาหารที่ผลิตจากต่อมไฮโปฟาริงซ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน มีลักษณะเป็นครีมสีขาวคล้ายน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย โดยนมผึ้งมีประโยชน์หลากหลาย ทั้งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์ ปรับสมดุลและเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เพราะอุดมด้วยสารอาหารสำคัญ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน รวมถึงสารอาหารบางอย่างที่มีเฉพาะในนมผึ้งเท่านั้น อย่าง Major Royal Jelly Protein (MRJP) และกรดไขมัน 10-HDA
จะเห็นได้ว่านมผึ้งมีสรรพคุณมากมาย จึงทำให้นมผึ้งเป็นสารสกัดสำคัญในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จะช่วยให้สกินแคร์ภายใต้แบรนด์มีความโดดเด่น สามารถแข่งขันในตลาดได้ ดังนั้น จึงต้องเลือกทำธุรกิจร่วมกับโรงงานรับผลิตครีมที่ใช้นมผึ้งเป็นส่วนผสมในสกินแคร์อย่างโรงงาน Pure Derima Laboratories โรงงานรับผลิตครีม สกินแคร์ และเครื่องสำอางแบบครบวงจร เรารับผลิตแบบ OEM ด้วยมาตรฐานในระดับสากล หากใครสนใจสร้างแบรนด์ครีมเป็นของตัวเอง สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้
- Fcaebook: Pure Derima Laboratories
- Line ID: @purederima
- เบอร์โทรศัพท์ 02-285-4266