ไฮยาลูรอน สารธรรมชาติที่สามารถพบได้ในร่างกายแต่จะสลายไปตามกาลเวลา หากขาดสารตัวนี้ไปร่างกายจะสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวโทรม เกิดริ้วรอย และเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเข้ามากวนใจ และทั้งหมดนี้คือ Pain Point ของปัญหาผิวที่ใครหลาย ๆ คนต้องเผชิญและหาทางแก้ไข
เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังวางแผนสร้างแบรนด์ตัวเอง อยากส่งออกครีมหรือสกินแคร์ให้ติดตลาด มีคนสนใจเยอะ ๆ ต้องไม่พลาดที่จะทำความรู้จักกับไฮยาลูรอนให้ดี เพื่อที่จะนำมาเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักของครีมของคุณ ไฮยาลูรอนคืออะไร มีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีแค่ไหน มาดูกัน!
ไฮยาลูรอน คืออะไร
ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) คือสารธรรมชาติที่พบได้ในผิวหนังหรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้น และทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ เจ้าของแบรนด์ยังมักจะใช้สารไฮยาลูรอนเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกด้วย เพราะคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้นอิ่มฟูนั้นเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้ใช้ที่รักในการดูแลตัวเอง
ประโยชน์ของไฮยาลูรอน
ไฮยาลูรอนมีคุณสมบัติที่ดีต่อผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารตัวนี้เป็นส่วนประกอบจึงช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงที่มากขึ้น ดังต่อไปนี้
เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
สารไฮยามีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวสาร จึงเป็นเหตุผลที่ช่วยให้ผิวสามารถคงความชุ่มชื้น เต่งตึง ฉ่ำวาว และดูสุขภาพดีได้มากกว่าเดิม
ลดเลือนริ้วรอย
การบำรุงผิวด้วยไฮยาลูรอนจะช่วยลดเลือนริ้วรอย ลบร่องลึก และทำให้ผิวดูเรียบเนียนได้มากขึ้นกว่าเดิม ข้อดีส่วนนี้ทำให้สารไฮยาลูรอนเพียงถูกใช้ในอุตสาหกรรมครีมและสกินแคร์ แต่ยังถูกใช้ในวงการเสริมความงามที่ใช้ศาสตร์ของการชะลอวัยอีกด้วย
ซ่อมแซมเซลล์ผิว
คุณสมบัติเด่นอีกประการของสารไฮยาลูรอนนี้ คือ ความสามารถในการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว ผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกและเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี
ประเภทของกรดไฮยาลูรอน
กรดไฮยาลูรอนิคมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมที่นำไปใช้ ทำให้ต้องพิจารณาข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีผ่าน MSDS และตรวจสอบ COA เพื่อเลือกใช้งานให้ถูกประเภท ทั้งนี้ การจะทราบว่าไฮยาลูรอนใช้ตอนไหน ต้องเริ่มจากการแบ่งประเภทของไฮยาลูรอนให้ได้ก่อน ดังต่อไปนี้
1. ไฮยาลูรอนสายยาว (High molecular hyaluron : H-HA)
กรดไฮยาลูรอนที่มีขนาดโมเลกุลประมาณ 2000 kDa ซึ่งถือเป็นประเภทที่มีขนาดใหญ่ที่สุด การมีไฮยาลูรอนโครงสร้างสายยาวจะช่วยให้มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี และสามารถเติมเต็มริ้วรอยร่องตื้นที่ผิวชั้นนอกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2. ไฮยาลูรอนสายกลาง (Medium molecular hyaluron : M-HA)
กรดไฮยาลูรอนที่มีขนาดโมเลกุลรองลงมาที่ประมาณ 1000-1400 kDa กรดไฮยาลูรอนประเภทนี้มีคุณสมบัติในการซึมลึกได้ดีถึงผิวชั้นหนังกำพร้า ดังนั้น จึงสามารถลดเลือนริ้วรอยได้ในระดับที่ลึกกว่าไฮยาลูรอนสายยาว
3. ไฮยาลูรอนสายสั้น (Low molecular hyaluron : L-HA)
กรดไฮยาลูรอนที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุดประมาณ 52 kDa การมีขนาดโมเลกุลที่เล็กส่งผลให้กรดไฮยาลูรอนประเภทนี้สามารถซึมลึกได้ถึงผิวชั้นลึก ดังนั้น การเลือกใช้ไฮยาลูรอนสายสั้นจึงสามารถเติมเต็มริ้วรอยได้จากภายใน และช่วยให้การดูแลผิวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวังก่อนการใช้ไฮยาลูรอน
การใช้สารทุกอย่างล้วนแต่จำเป็นต้องทราบข้อควรระวัง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไฮยาลูรอนิคเป็นส่วนประกอบด้วยเช่นกัน ข้อควรระวังก่อนการใช้มีดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ที่แพ้ การใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทุกชนิดจำเป็นต้องทำการทดสอบการแพ้ก่อน โดยสามารถทดสอบด้วยการใช้ปริมาณน้อย ๆ บนหลังมือ เพื่อดูว่าเกิดอาการระคายเคืองหรือไม่ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้โปรตีนอาจมีโอกาสแพ้ไฮยาลูรอนได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic acid อาจเป็นอันตรายต่อบุคคลในกลุ่มนี้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อน หรือหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
- เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนอาจมีหลายประเภททั้งผลิตภัณฑ์เนื้อเบาและเนื้อเข้มข้น ซึ่งจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวด้วยเช่นกัน
ข้อดีและข้อเสียของไฮยาลูรอน
ไฮยาลูรอนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งจำเป็นต้องทราบให้รอบด้าน เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาก่อนนำมาใช้กับผิวของเรา เพราะแม้ว่าสารตัวนี้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ครีมไฮยาลูรอนก็อาจไม่เหมาะกับผิวของบุคคลบางกลุ่มเช่นกัน โดยสามารถสรุปเป็นข้อดีและข้อเสียได้ดังนี้
ข้อดี
- สารเสมือนที่มีอยู่ในร่างกาย ทำให้มีโอกาสแพ้ได้ยาก
- เพิ่มความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
- มีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
- ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพเนื่องจากสภาพแวดล้อมหรืออายุที่มากขึ้น
ข้อเสีย
- ไฮยาลูรอนอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ (แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมาก)
- สารไฮยาลูรอนมีราคาที่ค่อนข้างสูง แลกมากับคุณสมบัติการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพสูง ในมุมของผู้ผลิตอาจทำให้ต้นทุนสูงมากขึ้น
สรุป
ไฮยาลูรอนกลายเป็นส่วนผสมสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เนื่องด้วยคุณสมบัติที่ดีหลายประการ ทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้นไปจนถึงการซ่อมแซมเซลล์ผิว จนทำให้สารตัวนี้เป็นองค์ประกอบอันดับต้น ๆ ของครีมบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูงในหลากหลายแบรน์ดัง
หากคุณมีความสนใจในผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าว และต้องการก้าวเข้าสู่ธุรกิจเครื่องสำอางด้วยการสร้างแบรนด์ของตัวเอง Pure Derima Laboratories (PDL) คือโรงงานผลิตครีมที่รับผลิตผลิตภัณฑ์ความงามแบบครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาสูตร การผลิตภายใต้มาตรฐาน ISO และ GMP การออกแบบบรรจุภัณฑ์หรือโลโก้ และการวางแผนการตลาด PDL พร้อมช่วยให้คุณเติบโตและประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ไปพร้อม ๆ กัน